ผ่าตัดเปลี่ยนเข่าเทียม ใครบ้างควรทำ วิธีเตรียมตัวก่อนและหลังการรักษา


ข่าว

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม นับเป็นวิธีการรักษาที่ 90% ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้มากที่สุด เผยใครบ้างควรผ่า!

.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}

การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement) เป็นการผ่าตัดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเริ่มมีการผ่าตัดครั้งแรกในปี 1968 หลังจากนั้นการผ่าตัดนี้ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในด้านวัสดุที่ใช้และวิธีการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดให้ผลดีขึ้น

เข่าเป็นข้อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ประกอบด้วยส่วนกระดูก 3 ชิ้น คือ

  • ส่วนปลายของกระดูกต้นขา (Femur)
  • ส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง (Tibia)
  • กระดูกสะบ้าหัวเข่า (Patella)

3 ระยะข้อเข่าเสื่อม ที่คนอายุน้อยก็เป็นอาการแบบไหนต้องรีบผ่าตัด

สัญญาณ“ข้อเข่าเสื่อม” ระยะแรก และพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ทำข้อเสื่อมไว

โดยมีเอ็นยึดกระดูกทั้ง 3 ไว้ให้มั่นคง และมีกล้ามเนื้อเกาะตามกระดูกเพื่อความเคลื่อนไหว บริเวณผิวของกระดูกทั้ง 3 ชิ้นจะคลุมด้วยกระดูกอ่อน (Articular Cartilage) ซึ่งมีลักษณะสีขาวมันเรียบ กระดูกอ่อนจะทำหน้าที่เป็นเบาะกันการกระแทกกันของกระดูก และผิวที่เรียบทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ส่วนที่เหลือของข้อเข่าที่ไม่ได้คลุมด้วยกระดูกอ่อน จะถูกคลุมด้วยเยื่อหุ้มข้อ (Synovial Membrane) ซึ่งมีลักษณะบางและเรียบทำหน้าที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงข้อ ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงข้อจะช่วยหล่อลื่นบริเวณผิว

ผู้ป่วยที่เหมาะกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

  • ปวดเข่ามากจนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น ปวดมากเวลาเดิน ขึ้นลงบันได ลุกหรือนั่ง
  • ปวดเข่าเวลาพัก เช่น ปวดเวลานอน
  • มีการอักเสบบวมแดงของเข่า โดยมีอาการบ่อยและเรื้อรัง
  • มีการผิดรูปของเข่า เช่น เข่าโค้งออก หรือเกเข้าใน ฯลฯ
  • ขยับเข่าติดขัดลำบาก งอ หรือเหยียดเข่าลำบาก
  • ใช้การรักษาแบบอื่น เช่น เปลี่ยนวิธีการใช้งาน ยาทาน หรือการฉีดยาเข้าในเข่าไม่ได้ผล
  • ส่วนใหญ่การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะทำในผู้ป่วยอายุ 60 – 80 ปี การพิจารณาผ่าตัดจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไปขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค

ตรวจก่อนเข้ารับการรักษาเข่า

  • ประวัติสุขภาพทั้งหมด อาการ ลักษณะการปวดเข่า และความสามารถในการใช้งานของเข่า
  • ตรวจร่างกาย ตรวจการทำงานของเข่า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ เข่าและความแข็งแรงของเอ็นรอบ ๆ  เข่า X-Ray เพื่อดูพยาธิสภาพ ความเสียหายของเข่า
  • บางครั้งอาจต้องมีการตรวจเลือด X-Ray พิเศษ หรือตรวจ MRI เพื่อดูสภาพของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ  รอบกระดูก

ชนิดของข้อเข่าเทียม

  • ชนิดเปลี่ยนข้อเข่าทั้งหมด (Total Knee Replacement) ตัดผิวข้อทั้งส่วนปลายต้นขา (Femur) และส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง (Tibia) และแทนที่ด้วยผิวโลหะโดยมีแผ่นพลาสติกกั้น
  • ชนิดเปลี่ยนเพียงด้านเดียวของผิวข้อ (Unicompartmental Knee Replacement) โดยเปลี่ยนผิวทั้งด้านต้นขาและกระดูกหน้าแข้งเฉพาะด้านที่มีอาการเสื่อม ข้อดีของการผ่าตัดแบบนี้ คือ แผลเล็ก การตัดกระดูกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ  น้อย ผลทำให้การเจ็บปวดน้อยลง และกล้ามเนื้อกลับสู่สภาพปกติเร็วขึ้น แต่ข้อจำกัดของการผ่าตัดแบบนี้ คือ เหมาะกับเข่าที่มีพยาธิสภาพน้อยเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของเข่า

12 ตุลาคม วันโรคข้อสากล สถิติพบคนไทยป่วยข้อเสื่อมกว่า 6 ล้านคน

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

ปกติผู้ป่วยจะนอนโรงพยาบาลตอนเช้าของวันผ่าตัด การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยการผ่าตัดจะตัดเอาผิวข้อที่เสียออกและใช้ผิวข้อเทียมที่ทำด้วยโลหะและมีส่วนพลาสติกกันระหว่างผิวโลหะ เพื่อกันการกระแทกและลดแรงเสียดสีระหว่างผิวข้อ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะอยู่ในห้องพักฟื้นเป็นเวลา 1 – 2 ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวจากยาสลบแล้วจะย้ายกลับไปห้องพักผู้ป่วย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะอยู่โรงพยาบาล 5 – 7 วันหลังผ่าตัด โดยในช่วงแรกหลังผ่าตัดอาจมีสายสวนปัสสาวะ เพื่อให้แพทย์สามารถคุมปริมาณของเลือด และน้ำในร่างกายผู้ป่วยได้ถูกต้อง

เข็มแทงที่เส้นเลือดดำ เพื่อเป็นการให้เลือด น้ำเกลือ และยาปฏิชีวนะหลังผ่าตัดใหม่ๆ ผู้ป่วยอาจจะมีอาการคลื่นไส้และความรู้สึกตัวยังไม่ดี เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องให้น้ำเกลือจนสามารถทานอาหารได้เองเพียงพอ

หลังผ่าตัดผู้ป่วยหายใจแรง ไอบ่อยๆ เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดีขึ้น เป็นการป้องกันภาวะปอดบวม และอาจมีการใส่เครื่องช่วยขยับเข่า (Continuous Passive Motion – CCPM) เพื่อช่วยในการขยับเข่า วันที่ 2 – 3 หลังผ่าตัดแพทย์จะให้ผู้ป่วยเริ่มบริหารเข่าและเริ่มลุกนั่ง-ลุกยืน และหัดเดินโดยมีนักกายภาพบำบัดช่วย เมื่อผู้ป่วยสามารถช่วยตัวเองได้ แผลผ่าตัดไม่มีอาการของการติดเชื้อ ผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนใหญ่อยู่โรงพยาบาล 5 – 7 วัน

การเตรียมสิ่งแวดล้อมในบ้านและคนช่วยเหลือในช่วงหลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะสามารถช่วยตัวเองและเคลื่อนไหวโดยเครื่องพยุง แต่ในช่วงแรก ๆ หลังการผ่าตัดจำเป็นต้องมีคนช่วยในการประกอบกิจกรรมบางอย่าง เช่น อาบน้ำ ทำอาหาร ซื้อของ หรือซักผ้า ควรมีการติดตั้งและปรับปรุงสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมในบ้านเพื่อให้เหมาะสมหลังผ่าตัด ดังนี้

  • การติดตั้งราว (Bar) ตามขอบในห้องน้ำ เพื่อช่วยในการเดิน
  • ตรวจดูราวบันไดให้แข็งแรงและมั่นคง
  • ควรมีราวจับบริเวณส้วมชักโครก เพื่อช่วยในการลุก
  • ควรใช้เก้าอี้พลาสติกไว้ใช้เวลาอาบน้ำฝักบัว
  • ควรมีห้องต่าง ๆ อยู่ในชั้นเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้น – ลงบันได

ผลการรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมมากกว่า 90% ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมจะรู้สึกเจ็บปวดลดลง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงกับปกติ กิจกรรมควรเลี่ยงหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ได้แก่ กีฬาที่มีแรงกระแทกรุนแรงที่ข้อเข่า เช่น การวิ่งหรือกระโดด ซึ่งแรงกระแทกจะทำให้ส่วนที่เป็นพลาสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การนั่งคุกเข่า นั่งยอง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งส้วมแบบนั่งยองๆ ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด

ขอบคุณข้อมูลจาก : รพ.กรุงเทพ

ภาพจาก : shutterstock

ข้อเข่าอักเสบและข้อเสื่อมระวังภาวะแทรกซ้อนเสี่ยงติดเชื้อ-ขาโก่ง

อาการข้ออักเสบระยะแรก รู้ก่อนลดภาวะแทรกซ้อนกระดูกผิดรูป-เสียชีวิต

วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ

PPSHOP


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *