
เผยแพร่: 12 ต.ค. 2566 49
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม นับเป็นวิธีการรักษาที่ 90% ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้มากที่สุด เผยใครบ้างควรผ่า!
.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}
การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement) เป็นการผ่าตัดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเริ่มมีการผ่าตัดครั้งแรกในปี 1968 หลังจากนั้นการผ่าตัดนี้ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในด้านวัสดุที่ใช้และวิธีการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดให้ผลดีขึ้น
เข่าเป็นข้อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ประกอบด้วยส่วนกระดูก 3 ชิ้น คือ
- ส่วนปลายของกระดูกต้นขา (Femur)
- ส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง (Tibia)
- กระดูกสะบ้าหัวเข่า (Patella)
3 ระยะข้อเข่าเสื่อม ที่คนอายุน้อยก็เป็นอาการแบบไหนต้องรีบผ่าตัด
สัญญาณ“ข้อเข่าเสื่อม” ระยะแรก และพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ทำข้อเสื่อมไว

โดยมีเอ็นยึดกระดูกทั้ง 3 ไว้ให้มั่นคง และมีกล้ามเนื้อเกาะตามกระดูกเพื่อความเคลื่อนไหว บริเวณผิวของกระดูกทั้ง 3 ชิ้นจะคลุมด้วยกระดูกอ่อน (Articular Cartilage) ซึ่งมีลักษณะสีขาวมันเรียบ กระดูกอ่อนจะทำหน้าที่เป็นเบาะกันการกระแทกกันของกระดูก และผิวที่เรียบทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ส่วนที่เหลือของข้อเข่าที่ไม่ได้คลุมด้วยกระดูกอ่อน จะถูกคลุมด้วยเยื่อหุ้มข้อ (Synovial Membrane) ซึ่งมีลักษณะบางและเรียบทำหน้าที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงข้อ ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงข้อจะช่วยหล่อลื่นบริเวณผิว
ผู้ป่วยที่เหมาะกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
- ปวดเข่ามากจนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น ปวดมากเวลาเดิน ขึ้นลงบันได ลุกหรือนั่ง
- ปวดเข่าเวลาพัก เช่น ปวดเวลานอน
- มีการอักเสบบวมแดงของเข่า โดยมีอาการบ่อยและเรื้อรัง
- มีการผิดรูปของเข่า เช่น เข่าโค้งออก หรือเกเข้าใน ฯลฯ
- ขยับเข่าติดขัดลำบาก งอ หรือเหยียดเข่าลำบาก
- ใช้การรักษาแบบอื่น เช่น เปลี่ยนวิธีการใช้งาน ยาทาน หรือการฉีดยาเข้าในเข่าไม่ได้ผล
- ส่วนใหญ่การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะทำในผู้ป่วยอายุ 60 – 80 ปี การพิจารณาผ่าตัดจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไปขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค
ตรวจก่อนเข้ารับการรักษาเข่า
- ประวัติสุขภาพทั้งหมด อาการ ลักษณะการปวดเข่า และความสามารถในการใช้งานของเข่า
- ตรวจร่างกาย ตรวจการทำงานของเข่า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ เข่าและความแข็งแรงของเอ็นรอบ ๆ เข่า X-Ray เพื่อดูพยาธิสภาพ ความเสียหายของเข่า
- บางครั้งอาจต้องมีการตรวจเลือด X-Ray พิเศษ หรือตรวจ MRI เพื่อดูสภาพของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ รอบกระดูก
ชนิดของข้อเข่าเทียม
- ชนิดเปลี่ยนข้อเข่าทั้งหมด (Total Knee Replacement) ตัดผิวข้อทั้งส่วนปลายต้นขา (Femur) และส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง (Tibia) และแทนที่ด้วยผิวโลหะโดยมีแผ่นพลาสติกกั้น
- ชนิดเปลี่ยนเพียงด้านเดียวของผิวข้อ (Unicompartmental Knee Replacement) โดยเปลี่ยนผิวทั้งด้านต้นขาและกระดูกหน้าแข้งเฉพาะด้านที่มีอาการเสื่อม ข้อดีของการผ่าตัดแบบนี้ คือ แผลเล็ก การตัดกระดูกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ น้อย ผลทำให้การเจ็บปวดน้อยลง และกล้ามเนื้อกลับสู่สภาพปกติเร็วขึ้น แต่ข้อจำกัดของการผ่าตัดแบบนี้ คือ เหมาะกับเข่าที่มีพยาธิสภาพน้อยเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของเข่า
12 ตุลาคม วันโรคข้อสากล สถิติพบคนไทยป่วยข้อเสื่อมกว่า 6 ล้านคน

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
ปกติผู้ป่วยจะนอนโรงพยาบาลตอนเช้าของวันผ่าตัด การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยการผ่าตัดจะตัดเอาผิวข้อที่เสียออกและใช้ผิวข้อเทียมที่ทำด้วยโลหะและมีส่วนพลาสติกกันระหว่างผิวโลหะ เพื่อกันการกระแทกและลดแรงเสียดสีระหว่างผิวข้อ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะอยู่ในห้องพักฟื้นเป็นเวลา 1 – 2 ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวจากยาสลบแล้วจะย้ายกลับไปห้องพักผู้ป่วย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะอยู่โรงพยาบาล 5 – 7 วันหลังผ่าตัด โดยในช่วงแรกหลังผ่าตัดอาจมีสายสวนปัสสาวะ เพื่อให้แพทย์สามารถคุมปริมาณของเลือด และน้ำในร่างกายผู้ป่วยได้ถูกต้อง
เข็มแทงที่เส้นเลือดดำ เพื่อเป็นการให้เลือด น้ำเกลือ และยาปฏิชีวนะหลังผ่าตัดใหม่ๆ ผู้ป่วยอาจจะมีอาการคลื่นไส้และความรู้สึกตัวยังไม่ดี เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องให้น้ำเกลือจนสามารถทานอาหารได้เองเพียงพอ
หลังผ่าตัดผู้ป่วยหายใจแรง ไอบ่อยๆ เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดีขึ้น เป็นการป้องกันภาวะปอดบวม และอาจมีการใส่เครื่องช่วยขยับเข่า (Continuous Passive Motion – CCPM) เพื่อช่วยในการขยับเข่า วันที่ 2 – 3 หลังผ่าตัดแพทย์จะให้ผู้ป่วยเริ่มบริหารเข่าและเริ่มลุกนั่ง-ลุกยืน และหัดเดินโดยมีนักกายภาพบำบัดช่วย เมื่อผู้ป่วยสามารถช่วยตัวเองได้ แผลผ่าตัดไม่มีอาการของการติดเชื้อ ผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนใหญ่อยู่โรงพยาบาล 5 – 7 วัน
การเตรียมสิ่งแวดล้อมในบ้านและคนช่วยเหลือในช่วงหลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะสามารถช่วยตัวเองและเคลื่อนไหวโดยเครื่องพยุง แต่ในช่วงแรก ๆ หลังการผ่าตัดจำเป็นต้องมีคนช่วยในการประกอบกิจกรรมบางอย่าง เช่น อาบน้ำ ทำอาหาร ซื้อของ หรือซักผ้า ควรมีการติดตั้งและปรับปรุงสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมในบ้านเพื่อให้เหมาะสมหลังผ่าตัด ดังนี้
- การติดตั้งราว (Bar) ตามขอบในห้องน้ำ เพื่อช่วยในการเดิน
- ตรวจดูราวบันไดให้แข็งแรงและมั่นคง
- ควรมีราวจับบริเวณส้วมชักโครก เพื่อช่วยในการลุก
- ควรใช้เก้าอี้พลาสติกไว้ใช้เวลาอาบน้ำฝักบัว
- ควรมีห้องต่าง ๆ อยู่ในชั้นเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้น – ลงบันได
ผลการรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมมากกว่า 90% ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมจะรู้สึกเจ็บปวดลดลง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงกับปกติ กิจกรรมควรเลี่ยงหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ได้แก่ กีฬาที่มีแรงกระแทกรุนแรงที่ข้อเข่า เช่น การวิ่งหรือกระโดด ซึ่งแรงกระแทกจะทำให้ส่วนที่เป็นพลาสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การนั่งคุกเข่า นั่งยอง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งส้วมแบบนั่งยองๆ ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด
ขอบคุณข้อมูลจาก : รพ.กรุงเทพ
ภาพจาก : shutterstock
ข้อเข่าอักเสบและข้อเสื่อมระวังภาวะแทรกซ้อนเสี่ยงติดเชื้อ-ขาโก่ง
อาการข้ออักเสบระยะแรก รู้ก่อนลดภาวะแทรกซ้อนกระดูกผิดรูป-เสียชีวิต
ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
PPSHOP

