ตอนที่ 1 พฤติกรรมการใช้ยาเมื่อมีข้อบ่งชี้
อาร์ดียู มาจากคำว่า Rational Drug Use (RDU) หมายถึง การใช้ยาอย่างสมเหตุผล เป็นจุดเริ่มต้นของความปลอดภัยในการใช้ยาและสุขภาพดีของประชาชน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อประชาชนมีพฤติกรรมการใช้ยาที่ถูกต้อง และเหมาะสมที่เรียกว่า “พฤติกรรมอาร์ดียู”
ลองตอบคำถามต่อไปนี้เพื่อประเมินว่าคุณเป็นผู้มี “พฤติกรรมอาร์ดียู” แล้วหรือไม่
ก. พฤติกรรมการใช้ยาเมื่อมีข้อบ่งชี้ คือใช้เมื่อจำเป็น เมื่อทราบเหตุผลในการใช้ และเมื่อทราบสรรพคุณของยา
¨ ใช่ ¨ ไม่ใช่ 1. คุณใช้ยาเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่นหลีกเลี่ยงการใช้ยาเมื่อไม่สบายและมีอาการต่างๆ เพียงเล็กน้อย
¨ ใช่ ¨ ไม่ใช่ 2. ในการใช้ยาแต่ละครั้ง คุณทราบเหตุผลในการใช้ยาเหล่านั้นเสมอ
¨ ใช่ ¨ ไม่ใช่ 3. กรณีที่ไม่ทราบเหตุผลในการใช้ยา คุณจะถามเสมอ
¨ ใช่ ¨ ไม่ใช่ 4. คุณทราบสรรพคุณของยาทุกชนิดที่ใช้ เช่น ทราบว่ายาปฏิชีวนะใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช้กับโรคติดเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัด ไอ เจ็บคอ ทั่วๆ ไป
¨ ใช่ ¨ ไม่ใช่ 5. กรณีที่ไม่ทราบสรรพคุณของยาคุณจะถามเสมอ
ผลการประเมิน คุณเป็นผู้มีพฤติกรรมอาร์ดียูด้านการใช้ยาเมื่อมีข้อบ่งชี้ หากคุณตอบว่า ใช่ ครบทุกข้อข้างต้น
ความรู้และข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ควรทราบและควรปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ยาเมื่อมีข้อบ่งชี้
สำหรับอาการเจ็บป่วยที่มีอาการเล็กน้อย เช่น โรคหวัด,
เจ็บคอ, หรือปวดศีรษะ เป็นต้น ส่วนใหญ่จะหายได้เองโดย
ไม่ต้องใช้ยา
หากอาการยังคงอยู่ควรพิจารณาการบรรเทาอาการโดยไม่ใช้ยาเป็นวิธีแรก เช่น การดื่มน้ำเพิ่มเพื่อช่วยละลายเสมหะ, การสูดไอน้ำร้อนเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก, หรือการประคบเย็นในทันทีที่เท้าแพลง เพื่อบรรเทาอาการปวด. การนอนงีบหนึ่งอาจช่วยให้อาการปวดศีรษะหายไป และการประคบร้อนหรือเย็นอาจช่วยบรรเทาอาการปวดที่คอ, บ่า, ไหล่, หรือข้อเข่ารวมทั้งการปวดประจำเดือน
ประชาชนควรถามเหตุผลและความจำเป็นในการใช้ยาเสมอ และขอแนวทางจากแพทย์ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพโดยไม่ต้องใช้ยา เช่น การปรับเปลี่ยนอาหารโดยลดเค็ม, แป้ง, น้ำตาล, ไขมัน, และไขมันทรานส์ พร้อมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ, การควบคุมน้ำหนัก, หยุดสูบบุหรี่, ประเมินการบริโภคแอลกอฮอล์, การทำกายภาพบำบัด, การฝึกสมาธิ, ซึ่งอาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยา เช่น ยาลดความดัน, ยาลด
น้ำตาล, ยาลดไขมัน, ยาแก้ปวด, และยานอนหลับ เป็นต้น
การใช้ยาที่สรรพคุณไม่สอดคล้องกับโรคเป็นการใช้ยาโดยไม่มีข้อบ่งชี้ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะในโรคที่เกิดจากไวรัส, การใช้ยาแก้แพ้ชนิดง่วงน้อยในโรคหวัด, และการใช้ยาไทรอยด์เพื่อลดน้ำหนัก
การใช้ยาก่อนเวลาที่เหมาะสมเป็นการใช้ยาโดยไม่มี
ข้อบ่งชี้ เช่น การใช้ยาลดไขมันโดยไม่ได้รับการประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในระยะเวลา 10 ปี
การใช้ยาโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทำให้ใช้ยามากเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายและเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ยา
การรักษาสุขภาพผ่านการใช้ยาเป็นเรื่องสำคัญ แต่การใช้ยาอย่างสมเหตุผลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีและปลอดภัยในระยะยาว
นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล
ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชน
ด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.)