นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรทัศน์ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ได้เผยถึงความสำเร็จของละคร เกมรักทรยศ ในขณะมาร่วมงาน ‘End เกมทรยศ ปิดโรงดูตอนจบพร้อมกัน‘ ว่าได้รับทั้งกระแสและคำชื่นชมจากทั้งแฟนละคร รวมไปถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ ด็อกเตอร์ฟอสเตอร์ (Doctor Foster) ของอังกฤษ ต้นฉบับที่นำมารีเมคไว้ด้วยว่า
“เรื่องนี้ดีหมดเลยนะ ทาง BBC (BBC Studios เจ้าของลิขสิทธิ์) เขาก็ชมมาว่าเวอร์ชั่นของเราดีกว่าเกาหลีอีก มันมีครีเอทิวิตี้ในการประยุกต์ อย่างออริจินอลเขาก็มีลูกคนเดียว อันนี้มีลูกสองคน อาชีพจากหมอก็เป็นจิตแพทย์ ซึ่งดูแล้วเข้าท่าดี ของไทยก็เลยดูดี นักแสดงไทยด้วย เขาก็ชมหมดเลย เวอร์ชั่นเราก็เลยได้รับคำชมมาเยอะมาก”
มองว่าเป็นแนวทางเลยไหมว่าเป็นรสชาติใหม่ๆ ของช่อง?
“คือว่าช่อง 3 เขาอยู่มานานแล้ว คนก็จะคุ้นชินกับช่อง 3 ก็จะมีทั้งแฟนรุ่นเก่าที่คุ้นชินกับละครแนวเดิม เล่าเรื่องมาละเอียดคาแรกเคอร์ตัวละครเยอะหน่อย แต่แฟนรุ่นใหม่ที่เขาชินกับแพลตฟอร์มปัจจุบันที่เดินเรื่องเร็ว กระชับ อย่างเกมรักทรยศ จำนวนตอนก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ ขนาดออกอากาศวันละ ชม. ครึ่ง ก็ยังมีแค่ 16 อีพีเอง ถ้าเป็นสมัยก่อนต้อง 20 กว่า อีพี ด้วยเหตุนี้ด้วยมั้งเลยทำให้เกิดละครดูกระชับ เดินเรื่องฉับไว มุมวิธีการนำเสนอ ทางจูเวไนล์ (ผู้จัดฯ) เขาค่อนข้างพิถีพิถัน ก็ได้รับคำชมเรื่องการถ่ายภาพ องค์ประกอบ เรื่องแคสต์ ดาราเขาก็ให้ฟีดแบคที่ดีเวลาเขาไปทำงานกับผู้จัดคนไหนดีไม่ดี แต่ทีมงานนี้ได้รับคำชมเพราะว่าทำการบ้านดีบทดีอะไรก็ดี เพราะว่าเขาก็อยากทีมงานที่พิถีพิถัน บทละครดี การกำกับที่ดี ละครเรื่องนี้ใช้ผู้กำกับ 2 คน ออกมาแล้วโอเวอร์ออลมันเลยดูดี
ต้นฉบับทางอังกฤษเขาว่ายังไงบ้าง?
“ชอบครับ เขาชื่นชมเรามาเลย เขาฝากมาทางจูเวไนล์ เจ้าของบทเวลาเขาให้ใครไปทำเขาก็หวังว่าคนจะถ่ายทอด แต่เวลาทำละครแนวนี้เราไม่สามารถก็อปปี้มาคำต่อคำ ฉากต่อได้ เพราะฉะนั้นมันก็จะอยู่ที่ความคิดของทีมงานเขียนบทว่าทำได้ยังไง อย่างบ้านเราก็ฉีกแนวไปเลย ยกไปอยู่ภูเก็ต ทำอะไรต่างจากออริจินอล แต่ว่าปกติแล้วเขาจะมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด ทำอะไรก็ต้องให้เขาอนุมัติ อยู่ๆ ไปเปลี่ยนอาชีพของนางเอกไม่ได้ก็ต้องบอกเขา อยู่ๆ มีลูกสองคนก็ต้องอธิบายเหตุผลเขา แต่เขาก็ซื้อมันก็ง่าย แต่ว่าเขามีส่งคนมาดูแลว่าตรงกับสแตนดาร์ดเขาไหม”
“เรื่องนี้ดีหมดเลยนะ ทาง BBC (BBC Studios เจ้าของลิขสิทธิ์) เขาก็ชมมาว่าเวอร์ชั่นของเราดีกว่าเกาหลีอีก มันมีครีเอทิวิตี้ในการประยุกต์ อย่างออริจินอลเขาก็มีลูกคนเดียว อันนี้มีลูกสองคน อาชีพจากหมอก็เป็นจิตแพทย์ ซึ่งดูแล้วเข้าท่าดี ของไทยก็เลยดูดี นักแสดงไทยด้วย เขาก็ชมหมดเลย เวอร์ชั่นเราก็เลยได้รับคำชมมาเยอะมาก”
มองว่าเป็นแนวทางเลยไหมว่าเป็นรสชาติใหม่ๆ ของช่อง?
“คือว่าช่อง 3 เขาอยู่มานานแล้ว คนก็จะคุ้นชินกับช่อง 3 ก็จะมีทั้งแฟนรุ่นเก่าที่คุ้นชินกับละครแนวเดิม เล่าเรื่องมาละเอียดคาแรกเคอร์ตัวละครเยอะหน่อย แต่แฟนรุ่นใหม่ที่เขาชินกับแพลตฟอร์มปัจจุบันที่เดินเรื่องเร็ว กระชับ อย่างเกมรักทรยศ จำนวนตอนก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ ขนาดออกอากาศวันละ ชม. ครึ่ง ก็ยังมีแค่ 16 อีพีเอง ถ้าเป็นสมัยก่อนต้อง 20 กว่า อีพี ด้วยเหตุนี้ด้วยมั้งเลยทำให้เกิดละครดูกระชับ เดินเรื่องฉับไว มุมวิธีการนำเสนอ ทางจูเวไนล์ (ผู้จัดฯ) เขาค่อนข้างพิถีพิถัน ก็ได้รับคำชมเรื่องการถ่ายภาพ องค์ประกอบ เรื่องแคสต์ ดาราเขาก็ให้ฟีดแบคที่ดีเวลาเขาไปทำงานกับผู้จัดคนไหนดีไม่ดี แต่ทีมงานนี้ได้รับคำชมเพราะว่าทำการบ้านดีบทดีอะไรก็ดี เพราะว่าเขาก็อยากทีมงานที่พิถีพิถัน บทละครดี การกำกับที่ดี ละครเรื่องนี้ใช้ผู้กำกับ 2 คน ออกมาแล้วโอเวอร์ออลมันเลยดูดี
ซึ่งบังเอิญเป็นละครที่คนที่ชอบซีรีส์เกาหลีเคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีมาแล้ว ก็ถือว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ถ้าไม่นับ ด็อกเตอร์ฟอสเตอร์ ของอังกฤษ เรื่องนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 10 ที่สร้าง บางคนก็บอกว่าของเราดีกว่าเกาหลีอีก คุณแอน คุณอนันดาเล่นดีกว่า แม้กระทั่งแพทรีเซียก็เล่นได้ดี เขาก็ชื่นชมเรื่องของแอคติ้งของเรา
“ต้นฉบับทางอังกฤษเขาว่ายังไงบ้าง?
“ชอบครับ เขาชื่นชมเรามาเลย เขาฝากมาทางจูเวไนล์ เจ้าของบทเวลาเขาให้ใครไปทำเขาก็หวังว่าคนจะถ่ายทอด แต่เวลาทำละครแนวนี้เราไม่สามารถก็อปปี้มาคำต่อคำ ฉากต่อได้ เพราะฉะนั้นมันก็จะอยู่ที่ความคิดของทีมงานเขียนบทว่าทำได้ยังไง อย่างบ้านเราก็ฉีกแนวไปเลย ยกไปอยู่ภูเก็ต ทำอะไรต่างจากออริจินอล แต่ว่าปกติแล้วเขาจะมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด ทำอะไรก็ต้องให้เขาอนุมัติ อยู่ๆ ไปเปลี่ยนอาชีพของนางเอกไม่ได้ก็ต้องบอกเขา อยู่ๆ มีลูกสองคนก็ต้องอธิบายเหตุผลเขา แต่เขาก็ซื้อมันก็ง่าย แต่ว่าเขามีส่งคนมาดูแลว่าตรงกับสแตนดาร์ดเขาไหม”