ในวันนี้วันที่ 14 ตุลาคม สื่อ Reuters ได้รายงานว่า Ferrari ยักษ์ใหญ่รถสปอร์ตชื่อดังได้เริ่มรับชำระเงินด้วยคริปโตในสหรัฐฯ แล้วและจะขยายโปรเจกต์นี้ไปยังยุโรปตามคำขอจากลูกค้าสายอู้ฟู่ ตามข้อมูลที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการพาณิชย์กล่าวกับ Reuters

บริษัทท็อป ๆ ของโลกส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการเข้าไปมีส่วนกับคริปโต เนื่องจากความผันผวนของ Bitcoin และเหรียญ altcoin ต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถนำไปใช้เชิงพาณิชย์ได้อีกทั้งยังมีเรื่องของกฎระเบียบที่ไม่เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งและการใช้พลังงานสูงในการขุดยังเป็นกำแพงขวางกั้นไม่ให้ crypto กลายเป็นทางเลือกการชำระเงินที่แพร่หลาย

จะเห็นได้จากการที่บริษัทรถไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง Tesla ที่มี Elon Musk นั่งตำแหน่ง CEO อยู่นั้นได้หันหัวเรือเปลี่ยนทิศจากที่ตอนแรกได้ประกาศรับชำระเป็น Bitcoin แต่ภายหลังก็ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนในเรื่องนี้ด้วยข้อกังวลในเรื่องของการใช้พลังงานในการขุด Bitcoin

Enrico Galliera หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการพาณิชย์ของ Ferrari บอกกับ Reuters ว่าคริปโตนั้นได้พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการแนะนำซอฟต์แวร์ใหม่และการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มากขึ้น

“เป้าหมายของเราในการลดระดับคาร์บอนให้เข้าสู่ระดับกลางภายในปี 2030 อีกทั้ง value chain ทั้งหมดของเราก็ได้รับการยืนยันในเรื่องนี้อย่างแน่นอน” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์

Ferrari กล่าวว่าการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อคำขอจากตลาดและตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากลูกค้าหลายรายลงทุนในคริปโต

“บางคนเป็นนักลงทุนรุ่นเยาว์ที่สร้างโชคลาภจากคริปโต” เขากล่าว “บางคนเป็นนักลงทุนแบบดั้งเดิมที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเอง”

ในขณะที่คริปโตบางตัวเช่น Ethereum ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้พลังงานแล้ว แต่ Bitcoin เองยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการขุดที่ใช้พลังงานสูง

Ferrari จัดส่งรถยนต์มากกว่า 1,800 คันไปยังภูมิภาคอเมริกาซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

Galliera ไม่ได้บอกว่า Ferrari คาดว่าจะขายผ่านรถ crypto ได้กี่คัน เขากล่าวว่ายอดสั่งซื้อรถยังคงอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งและมียอดจองเต็มไปจนถึงปี 2025 แต่บริษัทแค่ต้องการทดสอบการชำระเงินที่กำลังขยายตัวในตอนนี้
ที่มา : MarketScreener