รอบรั้วการตลาด : YUZU GROUP ขยายร้านอาหารครอบคลุม 10 แบรนด์กวาดทุกเซกเมนต์


ปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร Founder & CEO บริษัท ส้มพาสุข จำกัด หรือ YUZU GROUP กล่าวว่า ปี 2566 ถือว่าเป็นปีทองที่สำคัญของ YUZU GROUP เนื่องจากมีการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ทั้งการเสริมพอร์ตด้วยร้านอาหารใหม่ๆ และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการขยายร้านอาหารให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์

เราได้วิเคราะห์เทรนด์ร้านอาหาร และพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา เพื่อจับกระแสในการตอบรับไลฟ์สไตล์ดังกล่าว ในปีที่ผ่านมาเราจึงได้เปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่ ที่เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ร้านอาหารแห่งปี อย่าง Kogoro Katsu (โคโกโระ คัตสึ) และ Chicken Club Thailand (ชิคเก้น คลับ ไทยแลนด์) เพื่อเสริมพอร์ตโฟลิโอร้านหมูทอดทงคัตสึ และไก่ทอดสไตล์เกาหลี ล่าสุดกับ DA ZHENG (ต้า เจิ้ง) หม้อไฟสไตล์จีนต้นตำรับ เพื่อรับกระแสหม่าล่าฟีเวอร์

รวมถึงมีการประเมินตลาดร้านอาหารในปัจจุบันว่ามีมูลค่ารวมสูงถึง 4.1 แสนล้านบาท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และในปี 2566 เป็นปีที่ร้านอาหารกลับมาคึกคัก เนื่องจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และตลาดการท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาด้วยเช่นกัน ผู้เล่นในตลาดร้านอาหารจึงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโต

ส่วนแผนธุรกิจของ YUZU GROUP ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ยังคงเดินหน้าเร่งขยายสาขาของแบรนด์ในเครือเพิ่มอีกกว่า 10 สาขา จึงคาดการณ์ภายในสิ้นปีนี้ จะมีจำนวนสาขารวม 28 สาขา สำหรับผลประกอบการในปี 2565 ของ YUZU GROUP มีรายได้รวม 426.8 ล้านบาท คิดเป็นกำไรทั้งสิ้น 80.2 ล้านบาท การเปิดเกมรุกในตลาดร้านอาหารอย่างต่อเนื่องในปี 2566 จะสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจอย่างยั่งยืน จะช่วยดันรายได้ให้มีการเติบโตอย่างน้อย 20% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาท

ธิติ ตวงสิทธิตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว ชิกเก้นชีสสึบอล และ ชิกเก้น มินิ คอร์นดอก ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์จาก Sun Valley ไม่ใช่แค่การเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ถือเป็นการส่งเสริมทางเลือกอร่อยใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาสแน็กหรือของทานเล่น ที่มอบคุณประโยชน์ด้านโภชนาการและเติมเต็มประสบการณ์ทางอารมณ์ คาร์กิลล์ ยึดมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมอาหารและอาหารว่าง

ควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน คาร์กิลล์ จึงมีพันธกิจในการเติมเต็มโลกใบนี้ด้วยอาหารที่ปลอดภัย และความรับผิดชอบอย่างยั่งยืน การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวไปสู่อีกขั้นของการบรรลุภารกิจนี้ ผ่านการนำเสนอสแน็กเล่นใหญ่ ที่เติมคุณค่าทางโภชนาการให้ผู้บริโภคชาวไทย และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในการเลือกรับประทานอาหารอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้คาร์กิลล์ พบว่าผู้บริโภคชาวไทยชื่นชอบอาหารว่างที่สามารถเข้ากับอาหารจานหลักได้ เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและเป็นกันเอง สิ่งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ซัลแวลเลย์เป็นอย่างยิ่ง ในฐานะแบรนด์ที่รวบรวมผู้คนเข้ามาอยู่ร่วมกันและยกระดับให้ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอาหารว่าง

เพราะประเทศไทยติดลำดับ 1 ใน 5 ประเทศชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารว่างและไก่แปรรูป จากปี 2561 ถึง 2565 มีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5.5% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารว่างที่แข็งแกร่งนี้ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ชิกเก้น ชีสสึ บอล และ มินิ คอร์นดอก คาร์กิลล์ บุกเบิกยุคใหม่ของอาหารว่างที่ผสานความดั้งเดิมและนวัตกรรม รวมถึงรสชาติและความยั่งยืนด้วยเช่นกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเชื่อมโยงและการเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุข

เซเว่น อีเลฟเว่น เตรียมส่งเมนูอาหารเจกว่า 300 รายการ ต้อนรับเทศกาลกินเจ 2566 ด้วยคอนเซปต์ J&JOYS (เจ แอนด์ จอยส์) สัมผัสกับสีสันอาหารเจตลอดเทศกาล โดยพบกับสินค้าเจที่หลากหลายให้เลือกซื้อที่มาพร้อมเมนูเจทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ตอบโจทย์เจครบทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็น มื้อหลัก มื้อว่าง ของหวานและเครื่องดื่มเจ

นางสาวพรรวนา มหาทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและการตลาดสัมพันธ์ บริษัท แลคตาซอย จำกัด กล่าวว่า เราขอเชิญชวนสายรักสุขภาพ ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารวีแกน และอาหารที่ทำจาก Plant based มาร่วมสนุกกับแคมเปญ ดื่มเเลคตาซอย ได้…สุขภาพดี กับแลคตาซอย 2 สูตร ได้แก่ สูตรงาดำ หอมงาดำคั่วบด และ สูตรไฮเเคลเซียม หวานน้อยให้เเคลเซียมสูง โดยบอกเล่าว่าชอบสูตรไหน แล้วลุ้นรับ GiftSet แลคตาซอย และเครื่องปั่นน้ำผลไม้ขนาดพกพา 5 รางวัล (มูลค่ารางวัลละ 200 บาท) ระยะเวลาแคมเปญวันนี้ถึง 31 ต.ค.66

สำหรับช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ สายบุญที่ต้องการทำบุญ สามารถซื้อผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองแลคตาซอยสูตรเจ เพื่อร่วมสมทบบริจาคให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ทาง LineShop : LactasoyClub และ www.LactasoyShop.com 

ทิปโก้ ผู้ผลิตน้ำผลไม้ชั้นนำของประเทศไทย พร้อมปั้นแบรนด์เนเจอร์อัป พลัส Nature Up+ ในบรรจุภัณฑ์ SIG Terra Forest-based polymers ที่ผลิตโดยใช้โพลีเมอร์จากพืช ของเอสไอจี ทำให้เป็นนมจากพืชในบรรจุภัณฑ์จากพืช หรือ Plant based milk in Plant based pack ครั้งแรกในไทย บรรจุภัณฑ์กล่องปลอดเชื้อที่ทำจากโพลีเมอร์ที่ได้จากวัสดุหมุนเวียนจากพืช ตอกย้ำคำมั่นสัญญาด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของทิปโก้

ทั้งนี้ เนเจอร์อัป พลัส หรือ Nature Up+ แบรนด์ผลิตภัณฑ์นมจากพืช เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก SIG Terra Forest-based polymers ที่ผลิตด้วยโพลีเมอร์จากพืช ที่ได้มาจากวัสดุหมุนเวียนจากของเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมกระดาษ ช่วยลดการใช้วัตถุดิบที่มาจากฟอสซิล และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ กล่องบรรจุภัณฑ์ขนาด 200 มิลลิลิตรผลิตจากกระดาษที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรพิทักษ์ป่าไม้ หรือ FSC- Certified ว่าเป็นวัตถุดิบหมุนเวียน และโพลิเมอร์ที่เป็นผลผลิตพืช 100%

โดยผ่านกระบวนการจัดการสมดุลมวลสาร (mass-balanced system) นอกจากนี้ ชั้นอะลูมิเนียมแบบบางที่ปกป้องผลิตภัณฑ์จากแสงและออกซิเจน ยังได้รับการรับรองมาตรฐานจาก asi (Aluminum Stewardship Initiative) และ เพื่อให้มั่นใจว่าบรรจุภัณฑ์ผลิตจากวัสดุหมุนเวียนที่สอบกลับได้ กระบวนการจัดการสมดุลมวลสารจึงได้รับการรับรองโดย ISCC PLUS standard องค์กรสากลระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันบรรจุภัณฑ์ Terra ที่ใช้โพลีเมอร์จากพืช ของเอสไอจี ช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนลงถึง 45% เมื่อเทียบกับบรรจุมาตรฐานของเอไอจีอีกด้วย โดยบรรจุภัณฑ์ Terra ที่ใช้โพลีเมอร์จากพืช สามารถใช้ในกล่องปลอดเชื้อของเอสไอจีในทุกรูปแบบ และเหมาะสำหรับการบรรจุอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างสมบูรณ์แบบ


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *