ลำปาง – ย่าและญาติพี่น้องคาใจมาตรฐานการรักษา รพ.รัฐในลำปาง..หลังหลานชายวัย 11 ขวบ ป่วยเป็นไข้เลือดออก พาไป รพ.หลายรอบ หมอจ่ายยาแล้วให้พากลับดูอาการที่บ้าน แม้ผลตรวจพบเกล็ดเลือดต่ำ จนทรุด-ช็อกกลางถนน ก่อนเสียชีวิตในห้องไอซียู
วันนี้(14 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามนางยศ แสนเงิน อายุ 59 ปี ชาวบ้านกล้วยหลวง ต.กล้วยแพะ อ.เมืองลำปาง ที่ติดใจสงสัยเกี่ยวกับมาตรฐาน-ขั้นตอนการรักษาของทางโรงพยาบาล จนทำให้หลานชาย คือ ด.ช. สัณหณัฐ หรือน้องโดม แสนเงิน หรือน้องโดม อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป. 5 โรงเรียนเทศบาล 7 ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกเสียชีวิต
นางยศ ซึ่งเป็นย่าของ ด.ช.สัณหณัฐ หรือน้องโดม เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมาน้องโดม ซึ่งเป็นหลานมีอาการเป็นไข้สูง วัดอุณหภูมิได้ 40 องศาฯ ก็ได้พาไปรักษาที่ รพ.ของรัฐแห่งหนึ่ง แพทย์ตรวจเบื้องต้นแล้วให้กลับไปสังเกตุดูอาการที่บ้าน พร้อมนัดให้มาตรวจอย่างละเอียดในวันที่ 8 ต.ค.ต่อมาจึงทราบผลว่าน้องโดมเป็นไข้เลือดออก แพทย์ก็ให้ยาพาราและยาแก้อาเจียน แล้วให้กลับมารอดูอาการที่บ้าน พร้อมนัดให้มาเจาะเลือดในวันที่ 9 ต.ค.อีกครั้ง เพื่อดูเกล็ดเลือด
โดยนัดฟังผลเลือด วันที่ 10 ต.ค.ซึ่งปรากฏว่าเกล็ดเลือดของน้องโดมต่ำมาก แต่หมอก็ให้กลับมารักษาที่บ้าน จนกระทั่งต่อมาประมาณ 3 ทุ่มวันเดียวกัน น้องโดมมีอาการปวดท้องรุนแรง ญาติจึงพาไปที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้งเบื้องต้นหมอฉีดยาให้ 2 เข็ม ก่อนที่ประมาณเที่ยงคืนหมอก็ให้พาน้องกลับบ้าน
ซึ่งญาติๆ ได้ขอให้น้องโดมนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะอาการไม่ค่อยดี อีกทั้งใบนัดเดิมของหมอก็นัดเจาะเลือด ในวันที่ 11 ต.ค.66 แต่หมอก็ยังคงให้กลับบ้านไม่ให้นอน รพ. ทำให้ต้องพาน้องกลับ ไปถึงบ้านเที่ยงคืนเศษ
เช้าวันรุ่งขึ้น(11 ต.ค.) ญาติก็ได้พาน้องโดมซ้อน รถ จยย.เพื่อไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงบริเวณสี่แยกศรีชุม ซึ่งห่างจากรพ.แค่ 2 กม.น้องโดมเกิดไม่มีแรงคล้ายกับจะช็อกกลางถนน จึงจอดรถจยย.ก่อนที่นำน้องมาพักที่ข้างทางและมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์มาช่วย พร้อมโทรศัพท์เรียกรถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลลำปาง เมื่อน้องโดมไปถึงรพ.ปรากฏว่าชีพจรต่ำ จึงย้ายไปห้องไอซียู ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงเช้าวันที่ 12 ต.ค.66
นางยศ ย่าของน้องโดมผู้เสียชีวิต กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยอมรับว่าติดใจมาก ทำไมแพทย์ถึงไม่ให้น้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ให้พาน้องกลับไปรักษาและรอดูอาการที่บ้าน โดยเฉพาะคืนวันที่ 10 ต.ค.น้องปวดท้องอย่างรุนแรง อีกทั้งเช้าอีกวันก็ต้องตรวจเลือดอยู่ดี ทำไม่ถึงไม่ให้นอนรักษาที่รพ.จึงอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวคนอื่นอีก
“ตนมีหลานคนเดียว น้องโดมเป็นเด็กดีขยันเรียน ก่อนที่เข้าห้องไอซียูน้องโดมยังบอกว่าทำไมตนไม่นอนเฝ้า ก็บอกหลานว่าจนท.เขาไม่ให้เฝ้าและบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่ ไม่นึกว่าเช้ามาหลานจะเสียชีวิตไปแล้ว”
ด้านนางนางศรัญญา สายพาน อายุ 37 ปี อาของน้องโดม เปิดเผยว่าญาติติดใจมาก เพราะคืนวันที่ 10 ต.ค.น้องมีอาการแย่ลง หมอก็รู้ว่าเด็กเป็นไข้เลือดออกเกล็ดเลือดต่ำอีกทั้งยังเจ็บท้องอย่างรุนแรงอีก ทำไมถึงไม่ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล อยากขอความชัดเจนและอยากให้จนท.มาอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นและอยากให้จนท.ของโรงพยาบาลดูแลคนไข้มากกว่านี้พร้อมขอวิงวอนให้หน่วยงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของโดมด้วย
ซึ่งล่าสุดมีจนท.ของโรงพยาบาลดังกล่าวได้มาแสดงความเสียใจและพูดคุยกับกับทางญาติน้องโดม เพื่อหาทางช่วยเหลือโดยจะนำเรื่องนี้เข้าประชุมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องในวันจันทร์นี้(16 ต.ค.66) ส่วนทางด้าน สสจ.ได้เปิดเผยถึงตัวเลขสะสมผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. 66 มีผู้ป่วยแล้วกว่า 1,400 ราย จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวังและกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายอย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าตัวเลขยังสูงอยู่และปีนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกแล้ว