ผู้เขียน	นายพล

ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS บุกตลาด ‘ปิกอัพยกสูง’

ถ้าพูดถึงค่ายรถยนต์ ฟอร์ด ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ เข้ามาทำตลาดรถยนต์ในเมืองไทยมานาน แสดงฝีมือผลิตรถให้คนไทยเห็นมามากมายหลายรุ่น

แต่จากสภาพการแข่งขันที่รุนแรงดุเดือดในกลุ่มรถยนต์ประเภทต่างๆ ทำให้ฟอร์ดต้องถอยร่น เลิกผลิตรถยนต์ประเภทอื่นมาสู้

เหลือไว้แต่กลุ่มรถกระบะ ทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ ปิกอัพกำลังมาแรงในระยะหลัง และรถยนต์ปิกอัพดัดแปลง หรือพีพีวี 7 ที่นั่ง อย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ พอจะฮึดสู้กับค่ายรถญี่ปุ่นและรถไฟฟ้าจากจีน ที่ระยะหลังสปีดมาแรงแซงทางโค้ง ค่ายฟอร์ดยังพอจะเบียดสู้ไหวในแง่คุณภาพ

ถามว่าในเมื่อรถยนต์คุณภาพไม่เป็นรองใคร และดูจากยอดขายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ไม่ธรรมดา ยอดขายปิกอัพไล่ตาม อันดับ 1 อีซูซุ ขายได้ 8,423 คัน ส่วนแบ่งตลาด 43.1% อันดับ 2 โตโยต้า 7,967 คัน ส่วนแบ่งตลาด 40.7% และอันดับ 3 ฟอร์ด 1,826 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.3%

แต่ทำไมไปไม่ถึงดวงดาว ขึ้นเป็นผู้นำตลาดปิกอัพเมืองไทยได้สักที

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะตลาดรถยนต์ในเมืองไทย ไม่ใช่แค่ต้องทำรถดีมีคุณภาพ

แต่บริการหลังการขาย อะไหล่ ราคาขายต่อ มาตรฐานการทำงานต้องเสมอต้นเสมอปลาย และอีกหลายปัจจัยต้องดี ต้องตอบสนองความผู้บริโภคเมืองไทยให้แม่นด้วย

อย่างล่าสุด ฟอร์ด แนะนำ ฟอร์ด เรนเจอร์ เอ็กซ์แอลเอส ใหม่ (Next-Gen Ford Ranger XLS) เป็นรถกระบะยกสูง รูปร่างหน้าตาถูกใจใครหลายคน

ตัวถังยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ มี 2 รูปแบบตัวถัง ทั้ง 2 ประตู โอเพ่นแค็บ (Open Cab) และ 4 ประตู ดับเบิลแค็บ (Double Cab)

ตกแต่งกระจังหน้าด้วยสีเทา ไฟทรง ซี-แคลมป์ (C-Clamp) เป็นแบบแอลอีดี พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

ไฟตัดหมอกติดตั้งด้านล่างกันชนหน้า และให้กระจกมองข้างแบบมีไฟเลี้ยว ปรับได้ด้วยไฟฟ้า บันไดด้านข้างและกันชนด้านหลังสีเดียวกับตัวรถ พร้อมบันไดเหยียบด้านข้างในตัว ล้ออัลลอยลาย 6 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้ง 2 รุ่น

กระบะท้ายกว้างขึ้น ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้นช่วยให้รถมีพื้นที่กระบะท้ายกว้างขึ้น จึงบรรทุกสัมภาระได้มาก และสามารถวางพาเลทขนาดมาตรฐานได้ และยังมีฟีเจอร์ช่วยการจัดวางสัมภาระและสิ่งของต่างๆ

กระบะท้ายสามารถเปลี่ยนให้เป็นโต๊ะทำงานเคลื่อนที่ได้ บริเวณฝาท้ายยังมีจุดยึดอุปกรณ์ช่าง 2 จุด ช่วยยึดไม้และวัสดุงานช่างอื่นๆ และยังมีไม้บรรทัดวัดขนาดแบบบิลด์-อิน ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น

มิติตัวถังรุ่น 2 ประตู Open Cab ยาว 5,370 มม. กว้าง 1,918 มม. สูง 1,874 มม. ความยาวฐานล้อ 3,270 มม. กระบะท้ายยาว 1,862 มม. กว้าง 1,420 มม. สูง 529 มม.

ส่วนรุ่น 4 ประตู Double Cab ยาว 5,370 มม. ยาว 1,918 มม. สูง 1,884 ความยาวฐานล้อ 3,270 มม. กระบะท้ายยาว 1,584 มม. กว้าง 1,420 มม. สูง 529 มม.

ห้องโดยสารโทนสีดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า ทั้งรุ่น 2 ประตู Open Cab 2 ที่นั่ง และรุ่น 4 ประตู Double Cab 5 ที่นั่ง มาตรวัดเป็นจอดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว จอมัลติฟังก์ชั่นตรงกลางแบบมัลติ-ทัช (Multi-Touch) ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง ไวร์เลส แอปเปิล คาร์เพลย์ (Wireless Apple CarPaly) และแอนดรอยด์ ออโต (Andriod Auto) รวมถึงรองรับการสั่งงานด้วยเสียง เช็กสถานะตัวรถผ่านแอพพลิเคชั่น ฟอร์ด พาส (Ford Pass) บนสมาร์ทโฟนได้

เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ช่วง 1,750-2,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.5 กิโลเมตร/ลิตร

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย พวงมาลัยไฟฟ้า ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด (รุ่น 4 ประตู Double Cab) และ 2 จุด (รุ่น 2 ประตู Open Cab) เบรก ABS กล้องมองหลังขณะถอยจอด ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ เป็นต้น

มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว Arctic White สีเทา Meteor Grey สีเงิน Aluminum Metallic สีน้ำเงิน Blue Lightning สีดำ Absolute Black

ส่วนราคา แบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่น 2 ประตู Open Cab XLS 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 794,000 บาท และรุ่น 4 ประตู Double Cab Ford Ranger XLS 2023 รุ่น Double Cab XLS 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 879,000 บาท

โดยรวมแล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS ถือว่าเป็นปิกอัพยกสูงแถวหน้าในเมืองไทยเลยทีเดียว ทั้งสมรรถนะการขับขี่ในเมือง การเลี้ยวเข้าซอย ไปได้แบบไหลๆ เรื่อยๆ

ส่วนทางไกลจะได้เห็นความเป็นตัวตนของเรนเจอร์มากกว่า ทั้งพละกำลังเหลือเฟือ ช่วงล่างดีกว่าปิกอัพหลายรุ่น และการควบคุมพวงมาลัยไม่เหนื่อย

ภายในดีไซน์มาแบบหรูดูทันสมัย ไม่โบราณ เบาะนั่งสบาย ห้องโดยสารเงียบดีกว่ารถเก๋งบางรุ่นด้วยซ้ำ อุปกรณ์ต่างๆ ไม่เป็นรองใคร

ขอเพียงทำให้ลูกค้าเชื่อใจ เชื่อมั่นมาตรฐานด้านต่างๆ ฟอร์ดก็คงจะรักษาฐานที่มั่นตลาดรถยนต์ในเมืองไทยได้ต่อไปอย่างแน่นอน

นายพล