สัปเหร่อ กับสัญญะที่ซ่อนอยู่ในหนัง
ต้องเต-ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ ที่กำลังมาแรงในหมู่คนรักหนังไทยและคนรักภาพยนตร์อยู่ในขณะนี้ ออกมาโพสต์ถึงสัญญะหรือ symbolic บางส่วนที่ซ่อนอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ ที่หลายคนอาจไม่ทราบ โดยเขาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า
“SYMBOLIC – บางส่วนของหนังเรื่องสัปเหร่อนะครับ
เราไม่ต้องมี ในสิ่งที่คนอื่นมีบ้างก็ได้
เราไม่ต้องไป ในที่ที่คนอื่นไปบ้างก็ได้
เราไม่ต้องรู้เรื่อง ในสิ่งที่คนอื่นรู้เรื่องบ้างก็ได้
เราไม่ต้องเป็น ในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็นบ้างก็ได้
มีในสิ่งที่เราอยากมี ไปในที่ที่เราอยากไป
รู้เรื่องที่เราอยากรู้ และมีความสุขกับชีวิตของเรานะ
มีความสุขกับปัจจุบัน
มีความสุขกับสิ่งที่เจ้าเลือก
มีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่
อยู่ที่มุมมอง อยู่ที่ความคิด อยู่ที่ความเข้าใจนะครับ”
สัปเหร่อ กับสัญญะที่ซ่อนอยู่ในหนังที่ “ต้องเต” ผู้กำกับออกมาเฉลยเอง
-
ข้าวจี่ไหม้
ยายที่แก่ชราตาแทบมองไม่เห็น แก่จนไม่รู้ความสุกพอดีกินของข้าวจี่ รู้แค่ว่าห่วงลูกหลาน ไม่สนใจว่าลูกหรือหลานตัวเองจะทำผิดหรือทำไม่ดีมาขนาดไหน รู้แต่ว่าอยากดูแลเขา มอบความรัก มอบความห่วงใย มอบความอบอุ่น บางครั้งเราอาจแค่อยากกินข้าวธรรมดากับคนในครอบครัวธรรมดา ที่แสนจะพิเศษแค่นั้นเองครับ นี่อาจเป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่แท้จริงของคนที่อยู่ข้างๆ ความรักต้องรักษาด้วยความรัก
-
ลูกโป่งขาวลอย
สื่อถึงการหลุดลอย การปลดปล่อย จากความสุขและทุกข์ของคนที่ยังอยู่และคนที่จากไป
-
วงไฮโลในงานศพ
แสดงถึงเส้นแบ่งระหว่างอารมณ์สนุกกับความเศร้า ของเจิดกับวงไฮโล เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าถ้าความตายไม่ได้เกิดกับคนที่เรารัก เราก็จะยังมีความสุขต่อไปได้โดยที่บางทีเราอาจลืมนึกถึงเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
-
เจิด (ผู้ชายที่ทาเล็บ)
ในสมัยก่อนจะสื่อถึงการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคม แต่พอมาอยู่บนตัวเจิด ความหมายแฝงที่ว่า เจิดที่จบกฎหมายกับการทำศพ เราจะไม่แบ่งแยกว่าใครเป็นใคร ทุกศพเราปฏิบัติด้วยความเท่าเทียมกัน
-
ส่อนขวัญ
พิธีทางความเชื่อของภาคอีสานที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยทางใจจะด้วยการประสบอุบัติเหตุก็ดี หรืออาการเจ็บป่วยก็ตาม โดยพิธีนี้มีความเชื่อว่า เมื่อบุคคลใดเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นจะทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ หายป่วยแล้วก็จะมีอาการซึมเศร้า ไม่สดชื่น ไม่แจ่มใสเหมือนคนปกติ จึงทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะทำพิธีนี้ขึ้นเพื่อเป็นการนำขวัญและกำลังใจของคนๆ นั้นกลับมาชาวอีสานบางคนกล่าวว่า หากไม่ทำ พิธีส่อนขวัญคนป่วยกลับคืนมา อาการของผู้ป่วย
-
โยนกาละพฤกษ์
การหว่านกัลปพฤกษ์ในงานศพ เป็นการแสดงให้เห็นภาพว่า ในขณะที่มีผู้คนกำลังแย่งยื้อเงินทองกันอย่างวุ่นวายอยู่นั้น ศพที่ตั้งอยู่กลับไม่รู้สึกอยากได้เงินทองเหล่านั้นเลย ยังนอนสงบนิ่ง ผิดกับตอนมีชีวิตอยู่ ต้องออกแรงดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง อีกอย่างหนึ่ง การหว่านกัลปพฤกษ์นั้นคือการโปรยทาน เป็นสร้างกุศลบารมีครั้งสุดท้ายให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
-
โบว์ดำกลัดคนท้อง
ตามความเชื่อของชาวอีสาน คือ ป้องกัน ภูตผีปีศาจ มาเอาลูกในท้องของแม่เด็ก
-
น้ำตก (โลกความฝัน)
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นน้ำตกไหลสวนทางกัน สื่อถึงธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันอยู่เสมอ คนเราไม่อาจขัดขวางหรือฝืนธรรมชาติได้ มันคือธรรมชาติของจริงที่เราต้องเจอ เรียนรู้ แล้วอยู่กับมัน
-
พิธีกรรมตัดสายแนน และแบ่งเว้นคนเป็นคนตาย
ผมได้หยิบเอาพิธีกรรมตัดผัวตัดเมียมาเล่าในมิติของความเชื่อ เขาเชื่อกันว่าพิธีกรรมนี้จะทำให้คนที่ตายไม่มาเอาคนที่อยู่ตายไปด้วย เหมือนตัดขาดความสัมพันธ์ ตัดขาดความคิดถึงตัดขาดความห่วงใย ตัดขาดความรู้สึก แต่ถ้าตอนทำคนที่ทำหันกลับไปดู จะทำให้ตัดทุกอย่างไม่ได้ บาดแผลจากความรัก ไม่อาจหายไปจากความทรงจำ
-
ธุง
ธุง เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมสำคัญของชาวอีสานมาอย่างยาวนาน เชื่อกันว่าสามารถใช้ป้องกันสิ่งนิสัยไม่ดีร้ายหรือสิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็นหรือภูตผีวิญญาณที่จะมารบกวนงานบุญ หากเห็นธุงแล้วจะถอยออกไป พร้อมกันนั้นยังเป็นการบอกกล่าวบวงสรวงเทพยดาในพื้นที่ว่ามีการทำบุญและมีพิธีการสำคัญให้มาช่วยปกป้องคุ้มครอง ยังสะท้อนความเชื่อหลายอย่างด้วยกัน อาทิ แทนการเชื่อมโยงวิญญาณหลังความตาย รวมถึงเป็นกุศโลบาย หมายถึง สายใยนำสู่พระธรรม เป็นบุญเป็นกุศลให้คนที่ประดิษฐ์ธุงแมงมุมถวายเป็นพุทธบูชา ได้ยึดเกาะสายใยนี้สู่ภพแห่งพระศรีอริยเมตไตรยหรือสู่นิพพาน
-
โปรยข้าวตอก
สื่อถึงคติธรรมว่า คนตายนั้น รูปกับนามแตกจากกันเหมือนข้าวตอกแตกที่แตกออกจากกัน
-
ยายผูกแขนให้เซียง
อีสานมีความเชื่อการผูกฝ้าย เป็นการรับขวัญให้เข้ามาในชีวิต ให้ชีวิตเจอแต่สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อหรือเป็นความจริงสุดท้ายถ้าทำแล้วเราสบายใจที่จะทำเราก็ทำ อย่างน้อยการที่เราทำมันก็เกิดจากความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่นของหัวใจเราเอง
-
เสื้อแดงแขวนหน้าบ้าน
ในความเชื่อของชาวอีสาน การแขวนเสื้อแดงที่หน้าบ้านเป็นการป้องกันผีแม่ม่ายที่จะมาเอาชีวิตของคนในบ้าน และอีกความเชื่อเป็นการป้องกันสิ่งอัปมงคลและผีต่างๆไม่ให้มารังควานผู้คนที่อยู่ในบ้าน
-
เมรุหลากสีสัน
เราตั้งคำถามว่าสื่อถึงการช่วยคลายความโศกเศร้าของคนที่สูญเสีย แต่เมื่อถึงวาระสุดท้ายที่จะทำการเผาศพผู้วายชนม์ เกิดขึ้นจริงๆสีสันต่างๆของเมรุยังจะช่วยปลอบอารมณ์ของเราได้ไหม
-
นกบินออกจากบ้าน
โบยบินออกที่จากที่อยู่อาศัย โบยบินออกจากความเป็นห่วง โบยบินออกจากการสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก อันนี้ตีความได้เยอะมากเลยครับ