ทำเอาแฟนๆดีใจหลังได้เห็นพระเอก หนุ่ม “เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” กลับมาสดใสแข็งแรงอีกครั้ง หลังเกิดเหตุสุดช็อก หมดสติกลางงานอีเวนต์ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายเดือน โดยมี คิตตี้ ภรรยา น้องวาเลนติน่า ลูกสาวสุดที่รักและครอบครัว เป็นกำลังใจสำคัญ

เอส เปิดใจครั้งแรกในรายการ “เที่ยงบันเทิงสด” ทางช่อง 7HD โดยมี “นิวหนวด-ธนิศ” ทำหน้าที่พิธีกร “สวัสดีทุกคนนะครับ ดีใจมากๆเลยครับที่ได้กลับมาที่ช่อง 7HD ได้กลับมาพูดทางทีวี ได้กลับมาพูดให้แฟนๆทุกๆคนได้ฟังดีใจมากๆเลยจริงๆ” ทุกคนตื่นเต้นมากที่เอสกลับมาแล้ว? “ผมดีใจมาก และที่ประทับใจมากกว่านั้นคือเจอพี่ๆหลายท่าน บางท่านน้ำตาคลอเลย ทำให้รู้เลยว่านี่คือเพื่อนร่วมงานจริงๆ นี่คือมากกว่าเพื่อนร่วมงานคือญาติจริงๆ ดีใจและมีความสุขมากๆที่กลับมา”

นี่คือพื้นที่แห่งความทรงจำจริงๆ? “เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหมอแนะนำนะครับ เพราะว่าผมที่ความทรงจำหายไปคุณหมอบอกว่าให้พยายามเจอเพื่อนๆในอดีต เจอคนรู้จักเพราะจะทำให้เวลาเจอเพื่อน เพื่อนก็จะคุยเรื่องต่างๆพอคุยปุ๊บสมองก็จะคิดตาม คิดได้ ผมเองเข้ามาที่ช่องก็จำได้ นี่ไง ร้านอาหารนี้เคยไป ตรงนี้เข้ามาทำงานตรงนี้ เคยถ่ายรูปตรงนี้ คือคุณหมอพูดถูกจริงๆ” ขอถามไปถึงเรื่องสุขภาพหน่อย ตอนนี้คุณหมอให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษบ้างมั้ย? “อันดับแรกเลยคือตอนนี้ ผมมีฝังเครื่องเข้าไปในหัวใจ เพื่อในกรณีที่หากเกิดเหตุในอนาคต เคสนี้ยังสามารถปั๊มได้ให้ไม่มีข้อผิดพลาด ไม่มีข้ออันตราย สิ่งที่คุณหมอให้ทำ คือเล่นเกมครับ แต่ไม่ใช่ว่าทุกเกมนะครับ เป็นเกมฝึกสมอง ชอบเล่นเกมวางแผน ก็มีแข่งกับคุณหมอ วัน 2 วันแรกแพ้คุณหมอ แต่พอเรากลับมาเหมือนเดิม คุณหมอมาตอนหลังคือคุณหมอไม่มีชนะเลย จนคุณหมอสนุก คุณหมอไม่ยอมกลับสักที (ยิ้ม) เราก็เอ๊ะ… แปลกดีเนอะ แล้วก็มีออกกำลังกาย เพราะว่าตอนแรกที่เป็นที่ฝังเครื่องยกมือได้ประมาณหนึ่ง คุณหมอ บอกว่าประมาณ 3 วันจากนั้นให้ออกกำลังกายได้แล้ว แต่จริงๆผมก็เพิ่งยกแขนขึ้น (ยิ้ม) ซึ่งพอกลับมายกมือได้ใกล้เคียงเดิม กลับบ้านวันแรกก็คือต่อยมวยครับ ฝึกมวยไทย เราก็ไม่เจ็บอะไรนะ จนวันที่ 2 เราก็ฝึกต่อ ปรากฏเจ็บ (หัวเราะ)”

มีอย่างอื่นที่เสริมอีกมั้ย? “ก็คือธรรมะครับ ผมเป็นคนที่สวดมนต์นั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็ก คุณหมอมาเยี่ยมญาติๆก็จะบอกว่า เอสสวดมนต์ไหว้พระอยู่ คุณหมอก็จะออกไปใหม่แล้วรอเข้ามาใหม่ คือผมจะตื่นประมาณ 7 โมง จากนั้นก็สวดมนต์นั่งสมาธิจน 9-10 โมง คุณหมอถึงจะเข้ามาได้ ซึ่งคุณหมอน่ารักมากเลยนะครับ คือไม่กวนเลยเห็นเรานั่งสมาธิอยู่ ช่วงกลางคืนก็เหมือนกันครับ” เอสคิดจะกลับมาเล่นละครหรือทำงานในวงการอย่างงานพิธีกรบ้างมั้ย? “โอ้โห เป็นความคิดแรกเลยครับ ตั้งแต่ตอนที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล สิ่งที่บอกคือ I have to go. I have to work พอตอนนี้เริ่มกลับมาใกล้เคียงเดิมมากขึ้น ยิ่งรู้สึกอยากกลับมา ทั้งงานละคร ทั้งงานพิธีกร แล้วที่เคยให้สัมภาษณ์ไปตอนเด็กๆว่าอยากเป็นตำรวจใช่ไหมครับ แล้วก็มีการเปลี่ยนใจนิดหนึ่งว่าคุณเป็นดารา เป็นพิธีกร คุณจะสื่อสารความดีอย่างไรก็ได้ ซึ่งพอเราได้ดูละครของตัวเอง เรารู้สึกดีจังเพราะละครเรื่องนี้จะเป็นสื่อให้สังคม อยากให้น้องๆได้ดู แล้วรู้สึกว่าโตมาอยากเป็นตำรวจ อยากเป็นคนดีจัง ดังนั้นการที่จะกลับมาทำงานละครผมแฮปปี้มากๆเลย”

ซึ่งละครสารวัตรใหญ่ เป็นละครหนึ่งในมาสเตอร์พีซของเอส ทั้งบท คำพูดที่กระแทกสังคม ยังจำการแนะนำตัวแบบสารวัตรใหญ่ได้อยู่มั้ย? “ตัวละคร ใหญ่ เวโรจน์ เป็นตัวละครที่ผมชอบมากๆ แต่ต้องทำการบ้านเยอะมากๆ เพราะบทละครทั่วไปบทพูดของตัวละครเต็มที่ก็ประมาณครึ่งหน้า แล้วก็มีคนอื่นมาพูดต่อจากเรา แต่ละครเรื่องสารวัตรใหญ่ บทของเราคือพูดคนเดียวทั้งหน้า คุยกับลูกน้องคนนี้เค้าตอบมานิดหน่อย คุยกับคนนั้นก็ตอบมานิดหน่อย และไม่ได้ยากแค่การพูดคุยต่อนะ มีเรื่องข้อกฎหมาย แต่ละข้อกฎหมายสอนไว้อย่างไร ต้องจำให้ได้ทั้งหมด แต่ผมชอบมากๆนะ แฮปปี้มากๆแม้ว่าจะมีบทที่ลึก ที่ยาก ที่ยาว แต่มีความสุขมากๆ” ฝากถึงแฟนๆหน่อย? “อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆเลยนะครับ ที่ส่งกำลังใจให้ผม ผมได้อ่าน ได้รับหมดเลย ผมสัญญาเลยผมจะทำอย่างเต็มที่ครับ”.