ถึงแม้ในตลาด EV โลก “Tesla” (เทสลา) จะครองส่วนแบ่งมากที่สุด ทว่าในตลาดญี่ปุ่น รถ EV ยอดนิยมกลับไม่ใช่ Tesla แต่เป็นมินิคาร์ของแบรนด์เจ้าถิ่นที่มีราคาไม่ถึง 5 แสนบาท
ถึงแม้ในตลาด EV โลก “Tesla” (เทสลา) จะครองส่วนแบ่งมากที่สุด ทว่าในตลาดญี่ปุ่น รถ EV ยอดนิยมกลับไม่ใช่ Tesla แต่เป็นมินิคาร์ของแบรนด์เจ้าถิ่นที่มีราคาไม่ถึง 5 แสนบาท
ข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า รถพลังงานไฟฟ้า (EV) ขนาดเล็กรุ่น Sakura (ซากุระ) ของบริษัท Nissan (นิสสัน) ที่ร่วมพัฒนากับ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) สองค่ายรถชื่อดัง ขึ้นแท่น “รถ EV ขายดีที่สุด” ในญี่ปุ่น จากยอดขาย 35,099 คันนับตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้ และครองสัดส่วนราว 50% ของยอดขาย EV ทั้งหมดในประเทศ
– รถ EV ขนาดเล็กรุ่น Sakura ของค่าย Nissan มีราคาขายเพียง 4.8 แสนบาท (เครดิตภาพ: Nissan) –
รายงานของบลูมเบิร์กชี้ว่า รถ Sakura ราคา 2 ล้านเยน หรือราว 4.82 แสนบาท (รวมเงินอุดหนุนจากรัฐบาลแล้ว) กลายเป็นปรากฏการณ์ในตลาดบ้านเกิดอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว พร้อมกับดีกรี “รถยนต์ญี่ปุ่นแห่งปี 2565”
สำหรับสมรรถนะของมินิคาร์ที่มีความยาวเพียง 3.32 เมตร สามารถวิ่งได้ไกลสุด 180 กิโลเมตรต่อ 1 รอบการชาร์จ และทำความเร็วได้สูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้วยยอดขายกว่า 35,000 คันในปีนี้ ทำให้รถรุ่น Sakura มีผลดำเนินงานในตลาดญี่ปุ่นแซงหน้าบรรดาคู่แข่งรายใหญ่ รวมถึง “Tesla” ยักษ์ใหญ่ EV ที่มีเจ้าของชื่อ “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีชั้นนำของโลก
แม้ว่าค่ายรถดังของสหรัฐอาจเป็นผู้นำตลาด EV ในโลกตะวันตก แต่ในญี่ปุ่นนั้น รถนั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดใหญ่กว่าของ Tesla กลับมียอดขายตามหลังรถพลังงานไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกว่า หรือที่เรียกว่า “Kei car” แบบไม่เห็นฝุ่น
– สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารของรถ EV รุ่น Sakura (เครดิตภาพ: AFP) –
สถานการณ์นี้ทำให้ “ญี่ปุ่น” กลายเป็นตลาดที่ท้าทายกว่าตลาดอื่น ๆ สำหรับบริษัท Tesla ซึ่งประกาศลดราคารถ EV รุ่น Model 3 และ Model Y ในญี่ปุ่นเมื่อกลางปีนี้
ขณะที่ “BYD” (บีวายดี) ค่ายรถ EV ยักษ์ใหญ่จากจีน เริ่มจำหน่ายรถยนต์ของตนในญี่ปุ่นเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจุดน่าสนใจของ BYD คือได้รับเงินทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” นักลงทุนระดับตำนานชาวอเมริกัน และเพิ่งทำยอดขาย EV ในตลาดโลกไล่จี้มาเกือบเท่ากับ Tesla เมื่อไม่นานนี้
อย่างไรก็ตาม รถ EV แบรนด์ต่างชาติ อาจต้องประสบความยากลำบากในการตีตลาดญี่ปุ่นต่อไป เนื่องจากความนิยมอันล้นหลามของรถ Kei car ในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดของประเทศซึ่งยังมีระบบขนส่งสาธารณะน้อย ขณะที่รถบรรทุกขนาดกะทัดรัดคล้ายกันที่เรียกว่า “Kei truck” กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดสหรัฐช่วงไม่กี่ปีหลังสุด
อ้างอิง: Business Insider, Bloomberg