มีหลายคดีที่ผู้มีอิทธิพล หรือนักการเมืองท้องถิ่น สามารถหาวิธีหลบหลีก หลุดพ้นคดีได้หรือหลุดพ้นการถูกจับกุมไปได้อย่างน่าสงสัย และคนในพื้นที่ต่างตั้งข้อสังเกตว่าการหลบหนีของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ ‘แป้ง นาโหนด’ ครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะจับตัวไม่ได้

หนึ่งในคดีที่ยังตามจับตัวไม่ได้ คือ ดาบตำรวจอรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี อดีตผบ.หมู่ สภ.คีรีรัฐนิคมได้แล้ว หลังก่อเหตุยิงภรรยาใหม่ พ่อตา และลูกชายภรรยาเก่า และเพื่อนบ้าน เสียชีวิตรวม 6 ศพ ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า หลังสงกรานต์จะมามอบตัว แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้มามอบตัวแต่อย่างใด

อีกทั้งยังมีหลายคดี ที่คนในพื้นที่เกรงกลัว เพราะทราบดีถึงกิตติศัพท์ และไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะหากมีเรื่อง ก็จะหลุดรอดไม่ถูกจับ เช่นน้องชายอดีตกำนันดัง ที่คุมพื้นที่ ป่าบอน ปากพยูน ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งมีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าคุ้มครอง ผู้ชนะการประมูลโครงการ ผู้รับเหมามาจากพื้นที่อื่น หากต้องการทำงานสะดวกก็ต้องจ่าย ถ้าไม่จ่ายไม่รับรองความปลอดภัย จะถูกยิงขู่หรือเผารถ จนทำงานไม่ได้

ส่วนนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด คนในพื้นที่ต่างทราบดีว่า การหลบหนี น่าจะได้รับการช่วยเหลือ เปิดทางให้หลบหนี และการติดตามตัว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ได้ตัว

โดยล่าสุด ตำรวจได้จับกุมนายคเนศ อายุ 28 ปี ได้ที่โรงภาพยนต์ ในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะเข้าไปชมภาพยนต์เรื่องสัปเหร่อ แต่ปวดท้อง จึงออกมาเข้าห้องน้ำ ตำรวจจึงแสดงหมายจับ โดยเป็นผู้ต้องหารายที่ 5 ที่เพิ่งถูกออกหมายจับ หลังจากพบว่าในภาพวงจรปิดเป็นผู้ที่เดินถือกระเป๋าสีดำ นำโทรศัพท์มือถือ และปืน รวมทั้งคีมตัดโซ่ ไปให้นายเชาวลิต ที่เตียงก่อนหลบหนี

ขณะที่วันนี้ เจ้าหน้าที่พบเบาะแส รถที่ใช้ในการหลบหนีมีการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นคันที่ “นายจักรี” หรือ “บิ๊ก” ได้นั่งรอในรถ ก่อนที่แป้งจะขึ้นรถกระบะสี่ประตูสีขาว ทะเบียน กจ.9049 หลบหนีไป ทั้งนี้รถคันดังกล่าวมีรายชื่อเป็นรถของ “นายปอย นายจีระวุฒิ “

โดยรถได้ถูกนำมาจอดไว้พร้อมกับมีการถอดป้ายทะเบียนไว้ที่บริเวณสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร และห่างจากบ้านแป้งประมาณ 5 กิโลเมตร

ขณะที่ทางเจ้าอาวาส ให้ข้อมูลกับตำรวจเบื้องต้น เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงลักษณะคล้ายสุนัขที่เลี้ยงไว้ภายในวัดเห่าช่วงประมาณเที่ยงคืน ก่อนที่ช่วงหลังจากพระไปบิณฑบาตรกลับมาช่วง 07.00 น. ก็พบมีรถมาจอด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ

และมีรายงานว่า ญาติของนายจีรวุฒิ และนายจักรี ได้ติดต่อให้ตำรวจไปรับ ภรรยาและลูกของทั้งสอง ให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย หลังจากนำรถมาจอดทิ้งในสำนักสงฆ์ แต่เจ้าตัวทั้ง 2 ยังหลบหนี โดยให้ญาติติดต่อตำรวจเพื่อไปรับภรรยาและลูกที่หลบหนีไปด้วยกันก่อนหน้านี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไปยอมเปิดเผยว่าให้ไปรับที่ใด