สำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ว่าปัจจุบันสีผสมอาหาร สีแดง หมายเลข 3 ถูกใช้ในอาหารหลายรายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์ลูกอมจากบริษัท เฟอร์รารา แคนดี จำกัด (Ferrara Candy) เกล็ดน้ำตาลโรยหน้าของเบ็ตตี คร็อกเกอร์ (Betty Crocker) และผลิตภัณฑ์เสริมภาวะโภชนาการกลิ่นสตรอเบอรี่ของเอนชัวร์ (Ensure) จากบริษัท แอบบอตต์ แลบอราทอรีส์ (Abbott Laboratories)
นอกจากนี้ ยังมีการพบสีดังกล่าวในยาอีกหลายประเภท เช่น ไวแวนส์ (Vyvanse) ของบริษัท ทาเคดะ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (Takeda Pharmaceutical Co.) ซึ่งเป็นยาที่ใช้สำหรับโรคสมาธิสั้น และยาสำหรับอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่ ของคอสต์โก โฮลเซล คอร์ป (Costco Wholesale Corp.) และไรต์ เอด คอร์ป (Rite Aid Corp.)
ทั้งนี้ คำสั่งห้ามใช้สีผสมอาหารสีแดง หมายเลข 3 ในอาหารและยา เกิดขึ้นหลังเอฟดีเอห้ามใช้สีชนิดนี้ในเครื่องสำอางเมื่อกว่า 30 ปีก่อน เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า เกิดเนื้องอกที่เชื่อมโยงกับสีดังกล่าวในหนูทดลอง
ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อผู้บริโภคและผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ ร่วมกันยื่นคำร้องต่อเอฟดีเอ เมื่อปี 2565 เพื่อขอให้มีการยกเลิกการใช้สีผสมอาหารสีแดง หมายเลข 3.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : AFP