ยังไม่พบความผิด น้าเดช คนขับรถตู้ ผลตรวจ ด.ญ.13 ปี สมอง ไขสันหลังปกติ


.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}

ผอ.รพ.ขอนแก่น เผยเด็กหญิง 13 ปี ที่ญาติกล่าวหาคนขับรถตู้ข่มขืนจนเสียสติ ล่าสุดเด็กพบจิตแพทย์ยังให้ยา และรักษาตามขั้นตอน ยังหวาดผวา ไม่พูด เบื้องต้นตรวจไขสันหลัง และคลื่นสมองปกติ ส่วนสารพิษเตรียมส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ฯ ด้าน พงส.สอบปากคำผู้โดยสารที่มาในวันเดียวกันกับเด็กหญิงไปแล้ว 40% ยังไม่มีหลักฐานพอจะแจ้งข้อหากับใคร

วันที่ 8 พ.ย. 66 ความคืบหน้ากรณีย่าของเด็กหญิงวัย 13 ปี ชาวอำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น ร้องเรียนผ่านสื่อฯ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม ภายหลังทราบความจริงว่าหลานสาวถูกคนขับรถตู้เหมารับส่งข่มขืนระหว่างโดยสารเดินทางไปหาพ่อแม่ที่ กทม. กลายเป็นคนพูดจาสติแตก พอเห็นภาพคนขับรถตู้ก็กรีดร้องว่า “บักนี่มันเป็นปิศาจ” วอนตำรวจเร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่คนขับรถตู้ออกมาปฏิเสธและแสดงความบริสุทธิ์ใจ นำรถตู้มาพบตำรวจด้วยตัวเอง ก่อนที่ทางตำรวจจะส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์ และนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งผลจะทราบประมาณ 2 สัปดาห์ – 1 เดือน 

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาการล่าสุดของเด็กหญิง 13 ปี ที่ถูกส่งต่อมารับการรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น ทางแพทย์ รพ.ขอนแก่น ได้ทำการตรวจในเรื่องของการตรวจทางกายที่น้องมาด้วยอาการหวาดระแวง และไม่พูด อาจจะเกิดในส่วนของไขสันหลังอักเสบหรือไม่ ซึ่งต้องแยกกับทางระบบประสาท เรื่องของจิตใจ โดยได้ทำการตรวจคลื่นสมองว่าอาจจะมีอาการของลักษณะลมชักหรือไม่ แต่ทั้งการตรวจไขสันหลัง และคลื่นสมองพบว่าปกติ แต่จะมีในส่วนที่ทาง รพ.ขอนแก่น ตรวจไม่ได้ เป็นในเรื่องของสารพิษสารเคมีต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้กับเด็ก โดยได้ส่งตรวจน้ำในไขสันหลัง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ กทม. เพื่อตรวจในส่วนนี้ อยู่ระหว่างรอผลประมาณ 2 สัปดาห์ 

ทั้งนี้ ในเรื่องการหาสารพิษต่างๆ ทางโรงพยาบาลขอนแก่นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยทางแพทย์ได้ดูแลเด็กในเบื้องต้นเป็นอันดับแรกก่อน เพราะเด็กยังมีอาการดังกล่าว (หวาดระแวง, ไม่พูด) และจะทำการส่งต่อเด็กไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อให้เด็กมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด การรักษาจะได้มีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากต้องเรียนตรงๆ ว่า รพ.ขอนแก่น เป็นการรองรับผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่บำบัดยาเสพติด จึงมองว่าน้องควรได้รับการรักษาในสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด และเป็นส่วนตัวที่สุด เนื่องจากน้องมีอาการหวาดกลัว และยังหวาดระแวง และอยากจะขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนขอให้มองสิทธิของเด็ก และกฎหมายของเด็กเป็นสำคัญ เพื่อช่วยเหลือสภาพในเรื่องจิตใจของเด็กก่อน

พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.ด้านแวงน้อย เปิดเผยเกี่ยวกับคดีว่า ทางตำรวจได้ส่งตรวจรถตู้ซ้ำ เพื่อตรวจภายรอบนอกรถหลังจากตรวจภายในรถตู้ไปก่อนหน้านี้ รวมถึงเอกสารต่างๆ พร้อมเก็บดีเอ็นเอรวมทั้งหลักฐานต่างๆ ภายในรถตู้ และคนขับ อยู่ระหว่างการรอผลทั้งหมดจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ซึ่งยังไม่ทราบว่าตรวจเจอวัตถุพยาน หรือหลักฐานอะไรบ้าง และคราบเหลวสีแดงที่พบนั้นคือคราบอะไร 

นอกจากนี้ในส่วนคำให้การต่างๆ ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำเจ้าของรถตู้ในฐานะพยานซึ่งเป็นคนขับในวันดังกล่าว รวมทั้งผู้โดยสารทั้ง 12 คน ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำทั้งหมด เพราะผู้โดยสารทั้ง 12 คนกระจัดกระจายกันอยู่ทั้งพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ กทม. และยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร หรือสอบสวนใครในฐานะผู้ต้องหา เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้ 

“ตำรวจได้สอบปากคำผู้โดยสารที่เดินทางมาพร้อมกับเด็กหญิง 13 ปี ในวันดังกล่าวไปได้แล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าทางตำรวจ สภ.แวงน้อย หลังรับแจ้งไม่ได้นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่ตรวจสอบในส่วนที่ทำได้ทั้งหมดทันที เพราะหลังจากสอบปากคำผู้แจ้งความเสร็จ ยังไม่มีความชัดเจนในสถานที่เกิดเหตุ ก็ได้มีการประสานตำรวจในท้องที่ที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนทำคดี โดยทาง สภ.แวงน้อย ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการแจ้งความ”.


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *