The All-New LEXUS LM เปิดตัวราคาเริ่ม 6.29-7.59 ล้านบาท


ข่าว

The All-New LEXUS LM เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง หน้าจอ 48 นิ้ว เบาะที่นั่งเฟิร์สคลาส

.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}

นาย โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว The All-New LEXUS LM ภายใต้ “LEXUS Chapter of Design Concept” โดยจะมาสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเลกซัสในประเทศไทย รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับและเป็นรถรุ่นหลักที่มียอดขายลำดับต้นๆ ในกลุ่มรถ Minivan ระดับหรู โดย LM ย่อมาจาก “Luxury Mover” สื่อถึงความตั้งใจในการพัฒนารถรุ่นนี้เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการใช้รถ MPV แบบมีคนขับ

สัมผัสตัวจริง All-New Toyota Prius 5th Gen ตัวท็อปเวอร์ชั่นญี่ปุ่น

Toyota Gazoo Racing Team Thailand คว้าแชมป์สมัย 4 ในมาราธอน 24 ชั่วโมง

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า นับจากการเปิดตัว Lexus LM ในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2563 ถือได้ว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของยนตรกรรม Luxury Minivan ไปอีกขั้น โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย มีรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ต้องการห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบาย พร้อมความประณีต และพิถีพิถันในการผลิตสูงสุด ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำในประเทศไทย

สำหรับ แนวทางการออกแบบ Lexus LM ใหม่ ได้สะท้อนวิสัยทัศน์ของเลกซัส ภายใต้แนวคิด “Making Luxury Personal” หรือ “การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล The All-new Lexus LM ใหม่ มาพร้อมการนำเสนอถึงความสง่างามทั้ง 7 ด้านดังนี้

1.“Sophisticated Exterior” การออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด

แนวทางการออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” มาพร้อมกระจังหน้ารูปแบบ “Lexus’s Resolute Look” ที่นำมาออกแบบให้เป็น “Unified Spindle” พร้อมไฟหน้าที่เฉียบคม ทันสมัย โปรไฟล์ด้านข้างตัวรถที่ยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังเป็นอันดับแรก และโดดเด่นด้วยไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ 

2. “Grand Interior” ห้องโดยสารภายในที่หรูหรา 

การออกแบบภายในห้องโดยสารที่ยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังออกแบบโดยให้ความสำคัญกับทุกๆ ตำแหน่งของเบาะนั่งรวมถึงตำแหน่งผู้ขับตามหลักแนวคิด TAZUNA ให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่บริเวณกึ่งกลาง วางทุกอย่างให้โอบล้อม ผู้ขับ สามารถเอื้อมใช้งานได้สะดวกไม่ต้องละสายตาจากถนน

3. “First Class Cabin Lounge” ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส

ภายในห้องโดยสารตอนหลังออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ ด้วยแรงบันดาลใจจากที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้น First class พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอขนาดใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง “Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System” ช่องเก็บของ ช่องแช่เครื่องดื่ม จุดชาร์จไฟ รองรับทุกความต้องการ เบาะนั่งที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน / เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ให้การซัพพอร์ตได้อย่างเหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ทำให้ทุกการเดินทางผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด

4. “Personalized Customization” ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะบุคคล

ความหรูหราที่ตอบสนองทุกรสนิยมส่วนบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen สามารถแยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roof หน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller” 

5. “Comfort and Confidence” สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทาง

เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคม และการควบคุมที่ดีเยี่ยม พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด

6. “World-Class Safety” ความปลอดภัยขั้นสูง

ระบบความปลอดภัย “Lexus Safety System Plus” ที่ครบครันในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทาง

7. “Ultimate Omotenashi” ประสบการณ์ “Omotenashi”

สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “Lexus Climate Concierge”    ที่จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original

The All-new Lexus LM ใหม่ มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ดังนี้

  • Lexus LM 350h Executive 4 ที่นั่ง ราคา 7,590,000 บาท
  • Lexus LM 350h Executive 7 ที่นั่ง ราคา 6,290,000 บาท

The All-new Lexus LM ใหม่ รับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

AVC-Woman2023-1B AVC-Woman2023-1B
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

.trc_rbox_container{text-align:left!important}.trc_user_exclude_btn{z-index:500!important}.sport-live .trc_rbox_header_span{color:#00adc8}.trc_rbox_header_span{font-size:30px;line-height:1.5}.trc_elastic .thumbnails-a .video-label-box{height:auto}


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *