3 กันยายน “วันเกิดโดราเอมอน” ร่วมฉลองให้หุ่นยนต์แมวขวัญใจคนทั่วโลก


ทุกวันที่ 3 กันยายน ถือเป็นวันเกิดตัวละครจากมังงะและอนิเมะขวัญใจผู้คนทั่วโลกเรื่อง “โดราเอมอน” ที่เขียนและวาดโดย “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ” ซึ่งเป็นนามปากกาของ “ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ และ โมโต อาบิโกะ”

สำหรับ “โดราเอมอน” เป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคตในคริสต์ศตวรรษ 22 และในการ์ตูนถูกเขียนให้เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2655 (ค.ศ.2112)

วันหยุด “กันยายน 2566” เช็กวันหยุดราชการ-ธนาคาร พร้อมวันสำคัญของเดือน

“กันยายน”เที่ยวไหนดี เล่นทะเลอ่าวไทย แอ่วลำพูนชมประเพณีหนึ่งเดียวในโลก

“โดราเอมอน” มีตัวอ้วนกลมสีฟ้า ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูแทะ และมีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงของ “เซวาชิ” เหลนชายของโนบิตะ วันหนึ่งเขาอยากรู้สาเหตุที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้ตัดสินใจให้โอราเอมอนย้อนเวลาไป จึงได้รู้ว่า “โนบิตะ” ผู้เป็นปู่ทวด เป็นตัวต้นเหตุ เซวาชิจึงให้โดราเอมอนย้อนเวลาไปคอยช่วยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดนแกล้ง โดยใช้ของวิเศษที่หยิบจากกระเป๋า 4 มิติ

“โดราเอมอน” เคยได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์เอเชีย ให้เป็น 1 ในวีรบุรุษของทวีปเอเชีย และในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2551 “มาซาฮิโกะ คามูระ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นได้แต่งตั้งให้โดราเอมอนเป็นทูตสันถวไมตรีอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของประเทศ โดยนับเป็น “ทูตแอนิเมชัน” ตัวแรกของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งในเป็น “ทูตโอลิมปิกฤดูร้อน 2020” อย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นอีกด้วย

ต้นกำเนิดของโดราเอมอน

“โดราเอมอน” เกิดขึ้นจากนักวาดการ์ตูนทั้ง 2 คน คือ “ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ” และ “โมโต อาบิโกะ” ได้ตั้งใจว่าจะลงโฆษณาการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขาไว้ว่าจะมีตัวเอกที่ออกมาจากลิ้นชัก ในนิตยสารการ์ตูนฉบับต้อนรับปีใหม่ ทั้งๆ ที่พวกเขายังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลย เมื่อใกล้ถึงเวลาส่งต้นฉบับก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งคู่เป็นอย่างมาก

แต่จู่ๆ “ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ” ได้เผอิญเห็นแมวจรจัดที่มักแอบเข้ามาเล่นที่บ้านของตัวเองเป็นประจำ ซึ่งเขามักจะชอบจับแมวตัวนี้มาหาหมัด จนเวลาล่วงเลยมาถึง 4.00 น. ก็ยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องใหม่ ทำให้ “ฮิโรชิ” โมโหตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดเลยเถิดไปว่าโลกนี้น่าจะมีไทม์แมชชีน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต

หลังจากนั้นฮิโรชิได้เผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้า เมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้เขาตกใจว่าตัวเองเผลอหลับไป จึงรีบวิ่งลงจากบันไดบ้าน ไปสะดุดกับตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่นของลูกสาวที่ตกอยู่บนพื้น

เหตุนี้เองทำให้ฮิโรชิเกิดไอเดียขึ้น โดยนำหน้าแมวจรจัดมาผสมกับตุ๊กตาญี่ปุ่น สร้างออกมาเป็นตัวละครหุ่นยนต์แมวจากอนาคตคอยช่วยเหลือเด็กชายที่แสนจะไม่ได้เรื่อง และตั้งชื่อว่า “โดราเอมอน” เป็นคำผสมระหว่าง “โดราเนโกะ” กับ “เอมอน” ในภาษาญี่ปุ่น ที่คำว่า “โดราเนโกะ” แปลว่าแมวหลงทาง ส่วนคำว่า “เอมอน” เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อนของประเทศญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตามชื่อโดราเอมอน มีด้วยกันทั้งหมด 5 ชื่อ คือ โดราเอมอน, โดเรมอน,  โดราจัง, โดรามอน และ โดราเอม่อนแมวจอมยุ่ง ซึ่งมีน้องสาวชื่อว่า “โดรามี”

เมื่อมีไอเดียเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ได้เขียนเรื่องราวของ “โดราเอมอน” ขึ้นมา เขียนไปเขียนมามีทั้งหมด 1,344 ตอน และตีพิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นปี พ.ศ. 2513 ก่อนจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย กลายเป็นการ์ตูนขวัญของผู้คนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

พล็อตเรื่องย่อของ “โดราเอมอน”

“โดราเอมอน” ถูกผลิตขึ้นในโรงงานมัตซึชิบะที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2655 (ค.ศ.2112) แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้ “โดราเอมอน” มีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ต้องเข้ารับการอบรมในห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ และได้พบกับแก๊งขบวนการโดราเอมอนที่นั่น

จนกระทั่งวันหนึ่งในงาน “โรบ็อต ออดิชั่น” ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว ด้วยความซุกซนของเซวาชิ เขาจึงได้กดปุ่มซื้อโดราเอมอนมาไว้ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ “โดราเอมอน” จึงได้เข้ามาอาศัยอยู่กับตระกูลโนบิ ในฐานะหุ่นยนต์พี่เลี้ยงเด็ก แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมจะแตกต่างกันคือ “โดราเอมอน” ได้ถูกนำเอาไปขายทอดตลาดเพราะเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน พ่อแม่ของโนบิจะจึงซื้อโดราเอมอน เพราะเห็นว่าราคาถูก เพื่อเอาไว้เป็นพี่เลี้ยงของเซวาชิ

เดิม “โดราเอมอน” มีตัวสีเหลืองกับมีหู แต่เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เซวาชิได้ให้หุ่นยนต์หนูแก้รูปปั้นที่จะยกให้โดราเอมอน แต่หุ่นยนต์หนูนั้นเข้าใจผิด คิดว่าให้แก้ที่หูของโดราเอมอน ขณะที่ “โดราเอมอน” หลับจึงโดนหนูแทะใบหูแหว่งไป 2 ข้าง เพื่อซ่อมแซมให้เหมือนเดิมจึงไปโรงพยาบาล แต่ก็โดนหมอตัดหูอีก จนหัวกลม แฟนสาวของโดราเอมอน “โนราเมียโกะ” เห็นดังนั้นก็หัวเราะใหญ่ ทั้งคู่จึงเลิกกัน ทำให้ “โดราเอมอน” เสียใจอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจ ตั้งใจจะหยิบยาเสริมกำลังใจเข้ามากินแต่ก็หยิบผิดกลายเป็นดื่มยาโศกเศร้าแทน ทำให้เศร้ากว่าเดิม ร้องไห้ไม่หยุดอยู่ริมชายหาด 3 วัน 3 คืน จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่างที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน และด้วยเหตุนี้ “โดราเอมอน” จึงกลัวหนูที่สุด และไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก

นอกจากนั้น “โดราเอมอน” ยังมีน้องสาวชื่อ “โดรามี” ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่ “โดเรมี” ใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิต “โดราเอมอน” อยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ

“โดราเอมอน” มีหุ่นผู้ช่วยคือมินิโดรา เป็นหุ่นโดราเอมอนขนาดเล็กจำนวนมาก โดยทุกตัวจะไม่มีหูกับมีสีที่แตกต่างกันไป จะพูดแต่คำว่า “โดราโดรา” เท่านั้น เป็นภาษาที่มีแต่หุ่นยนต์รุ่นโดรา อย่าง โดราเอมอน, โดรามี และหุ่นยนต์แมวตัวอื่นๆ เท่านั้นที่เข้าใจ

มินิโดราจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแทนตอนโดราเอมอนไม่อยู่ หรือมาช่วยซ่อมตอนโดราเอมอนพัง เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้โดราเอมอนเป็นต้นแบบ จึงถูกเก็บอยู่ในกระเป๋าพร้อมกับของวิเศษติดตัวอยู่ตลอด

เมื่อมาอยู่กับโนบิตะนั้น “โดราเอมอน” ใช้ชีวิตในฐานะหุ่นยนต์แมวตัวสีฟ้าที่พูดได้ โดยใช้ชีวิตร่วมกับโนบิตะและให้ยืมใช้ของวิเศษต่างๆ แม้จะเกิดเรื่องโกลาหลกว่าตลอดก็ตาม นอกจากนี้ยังซ่อนไทม์แมชชีนไว้ในลิ้นชักที่ใต้โต๊ะของโนบิตะ โดยให้โนบิตะ, ชิสุกะ, ไจแอนท์ และซูเนโอะ เท่านั้นที่รู้

ทั้งนี้แม้ “โดราเอมอน” จะไม่มีการเฉลยตอนจบ เพราะนักเขียนเสียชีวิตไปก่อน แต่มีหลักฐานยืนยันในตอนโนบิตะไปอนาคตเพื่อพบตัวเอง คือ ตั้งแต่โนบิตะวัย ม.ต้นถึงวัยแต่งงานมีลูกจนวัยแก่นั้น ไม่มีโดราเอมอนอยู่เลย นั่นหมายความว่าโดราเอมอนอยู่กับโนบิตะถึงแค่ตอนวัยจบประถมเท่านั้น แล้วกลับโลกอนาคตไป จากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย

ภาพจาก : ShutterStock

TOP ไลฟ์สไตล์

วิดีโอยอดนิยม

เรื่องที่คุณอาจพลาด


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *