เมื่อวันที่ 18 พ.ย.เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ มีล้อรถบรรทุกพ่วงล้อหลังหลุด ไปใส่หน้ารถเก๋ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บนถนนทางด่วนวงแหวนกาญจนา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 50 ทิศทางมุ่งหน้าบางปะอิน หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 2 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง เทรลเลอร์ จอดอยู่เลนซ้าย ล้อหลังของพ่วงหลุด ที่ฝั่งขวาของหางพ่วงพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ เอ็มจี ห้า สีดำ หน้ามุดอยู่ใต้หางพ่วง สภาพหลังคาและกระจกหน้าพังยับ มีล้อของรถพ่วงอยู่บนหลังคาตรงฝั่งคนขับ ที่บริเวณด้านหลังรถพ่วง พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า อแวนซ่า สีขาว สภาพหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าแตกข้างแตก และกระจกมองข้างทั้งสองฝั่งหลุดห้อย

 จากการโทรสอบถาม นาย ณัฐกาธิป  คนขับรถเอ็มจี บอกว่า ตนเองกลับมาจากทำงานย่านสมุทรปราการและกำลังขับรถกลับที่พักย่านรามอินทรา ระหว่างทางก็ขับมาตามปกติและใช้ความเร็วไม่มาก จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุสังเกตว่ามีล้อรถบรรทุกหลุดวิ่งไปชนกับแบริเออเกาะกลางจากนั้นล้อดังกล่าว กระเด็นพุ่งเข้าหาหน้ารถของตนเองอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถหักหลบอะไรได้ทัน พอถูกล้อพุ่งชนก็เหมือนภาพตัดไปแล้วรถเสียหลักไปชนรถเก๋งสีขาวก่อนจะพุ่งเสียบคาที่หางพ่วงเทรลเลอร์ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังถือว่าเคราะห์ดีมาก ๆ ที่จังหวะที่ล้อหลุดออกจนมาปะทะชนกับรถตนเองนั้น เป็นจังหวะที่ตนเองขับมาไม่เร็วหากชนความเร็วมากกว่านี้อาจถึงขั้นปะทะเสียชีวิตคาซากรถก็เป็นได้ จึงอยากฝากเตือนภัยให้ผู้ใช้รถทุกชนิดมั่นตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งานโดยเฉพาะรถบรรทุกที่มักเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้มาบ่อยครั้ง

ด้านน.ส.นกแก้ว  คนขับรถเก๋งสีขาว กล่าวว่า ขณะขับรถจนมาถึงที่เกิดเหตุตนเองเห็นว่าล้อรถพ่วงคู่กรณีล้อหลังขวาหลุดออกวิ่งตัดหน้ารถตนเองไปก่อน จะไปกระแทกกับแบริเออร์ เกาะกลางแล้วกระเด้งตกใส่หน้ารถเก๋งอีกคันที่รถเสียหลัก มาจนกับรถตนเองก่อนจะมุดเข้าหางพ่วงของรถบรรทุกคู่กรณีที่ล้อหลุดดังกล่าว