วันเสาร์ ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2566, 10.57 น.
จับแล้ว “ไอ้หื่นวิตถาร” นกเขาผ่าเบนซ์บุกห้องพักสาวสองพาไปทำอนาจารบนดาดฟ้าแม้ถึงขั้นต้องตรวจนกเขาพิสูจน์พบผ่าเบนซ์จริงแต่สุดท้ายก็ต้องจำนนกับผลตรวจดีเอ็นเอคราบอสุจิและบนมือถือ พบประวัติเคยก่อคดีพยายามฆ่า จี้ พยายามข่มขืน คดียาเสพติดและเคยติดคุกมาแล้ว ด้านสาวสองผู้เสียหายจิตใจบอบช้ำอย่างหนักต้องเลิกกับแฟนหนุ่มเพราะครอบครัวฝ่ายชายรับไม่ได้และยังถูกด้อยค่าจากโซเชียล
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายจอมหื่นวิตถารบุกห้องพักสาวประเภทสองในหอพักแห่งหนึ่งย่านทุ่งเสาในเมืองใหญ่ขณะนอนอยู่กับแฟนหนุ่ม โดยใช้วิธีสัปคัตเอาท์แผงไฟให้ไฟดับเพื่อล่อเหยื่อออกมาดู และใช้มีดจี้คอจะร่วมรักทางประตูหลังต่อหน้าแฟนหนุ่มแต่เปลี่ยนใจพาขึ้นไปทำอนาจารบนดาดฟ้าชั้น 4 โดยให้อมอวัยวะเพศจนอ๊วก ก่อนใช้วิธีสไลน์หนอนจนสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองและยังชิงโทรศัพท์มือถือไปสองเครื่อง โดยสาวสองเคราะห์ร้ายรายนี้บอกว่าไม่เห็นหน้าคนร้ายเพราะสวมไอ้โม่ง แต่จำอวัยวะเพศได้เพราะผ่าเบนซ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.40 วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยในวันเกิดเหตุทาง พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. สภ.หาดใหญ่ และพ.ต.ต.บัญญัติ สุกิจจารักษ์ สว.สส.ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา ได้แกะร้อยคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดขณะเดินขึ้นไปในโรงแรมที่อยู่ติดกับหอพักและปีนดาดฟ้าชั้น 4 ข้ามไปก่อเหตุจนพบตัวเป็นชายอายุ 34 ปี โดยตามไปจับได้ที่บ้านพักย่านถนนเทียนจ่ออุทิศ แต่ยังคงปากแข็งแม้ว่าถึงขั้นต้องดูอวัยวะเพศที่ผ่าเบนซ์ตรงเปะตามที่ผู้เสียหายยืนยันแต่ก็ยังคงปฏิเสธ และจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีประวัติเคยก่อคดีพยายามฆ่า จี้ พยามยามข่มขืน และคดียาเสพติด และเคยติดคุกมาแล้วด้วย
เบื้องต้นตำรวจทำได้เพียงแจ้งหาเสพยา เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดและคุมตัวเอาไว้ แต่ว่าล่าสุดผู้ต้องสงสัยรายนี้ดิ้นไม่หลุดเนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอจากคราบอนุจิบนดาดฟ้าและที่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายออกมาแล้วตรงกับชายต้องสงสัยรายนี้ชื่อว่า นายภูริวิทย์ อายุ 34 ปี จึงขอศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับและโดนแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 4 ข้อหา คือ 1.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำด้วยประการใดอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธและในเคหสถาน 2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยการขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้อาวุธ 3.บุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน และ 4.พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมและคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแม้ว่าทีแรกจะปากแข็งยืนกรานกระตายขาเดียวไม่ได้ก่อเหตุแต่ต้องมาจำนนด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวดิ้นไม่หลุดและผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายว่าจากคดีที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบกับจิตใจน้องริน อายุ 19 ปีสาวประเภทสองอย่างหนักเนื่องจากถึงขั้นต้องเลิกกับแฟนหนุ่มอายุ 16 ปี เนื่องจากครอบครัวของแฟนหนุ่มรับไม่ได้ที่ลูกชายมาคบกับสาวประเภท 2 จึงจำเป็นต้องเลิกกันทำให้หัวใจเธอบอบช้ำอย่างหนัก เพราะนอกจากจะต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้ายถูกคนร้ายทำอนาจารแล้วยังต้องเลิกกับแฟนด้วย ที่สำคัญหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวยังถูกด้อยค่าและบูลลี่จากคอมเมนท์ในโซเชียลจากการเป็นสาวประเภทสองด้วย – 003
<!–
window._taboola = window._taboola || [];
_taboola.push({
mode: ‘thumbnails-a’,
container: ‘taboola-below-article-text-links’,
placement: ‘Below Article Text Links’,
target_type: ‘mix’
});
–>