เพียงแค่ช่วงข้ามคืนกับกระแสบนโลกออนไลน์สำหรับ รถยนต์ประจำตำแหน่งของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เข้าทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการวันแรกด้วย Lexus LM 350h Executive 4 ที่นั่ง สุดหรูจนกระทั่งสื่อมวลชนต่างรายงานความเคลื่อนไหวกันยกใหญ่ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวไม่ใช่รถยนต์ที่จัดซื้อโดยรัฐบาล แต่เป็นรถยนต์ส่วนตัวที่นำมาใช้ปฏิบัติหน้าที่

เปิดรถ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ Lexus LM 350h ใช้ปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี

“เศรษฐา” ทดลองนั่งรถเบนซ์กันกระสุน ประจำตำแหน่ง

สำหรับเรื่องสมรรถนะของตัวรถ ความหรูหรา น่าสนใจ สื่อมวลชนหลายสำนักรวมถึง PPTVHD36 ได้นำเสนอถึงความพิเศษของรถยนต์คันดังกล่าวที่มีราคาระดับ 7.59 ล้านบาทไปแล้ว 

วันนี้ PPTVHD36 ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับแบรนด์ LEXUS (เลกซัส) แบรนด์รถยนต์ระดับหรูสัญชาติญี่ปุ่น ที่แนะนำแบรนด์สู่ตลาดโลกมานานกว่า 30 ปี หรือเข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี ค.ศ. 1989 ส่วน เลกซัส ประเทศไทย โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้นำรถยนต์ LEXUS เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยครั้งแรกในปี ค.ศ. 1993 วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่ม พรีเมี่ยม ด้วยการตั้งราคาและคุณภาพผลิตภัณฑ์

“เศรษฐา” นำ ครม. ถ่ายรูป เตรียมเข้าพิธีถวายสัตย์ฯ ควักเงินส่วนตัว ถอยรถตู้เลกซัสป้ายแดง

โปรดักส์แรกที่เข้าสู่ตลาดประเทศไทย คือ LEXUS LS รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ และทยอยเพิ่มผลิตภัณฑ์ในรุ่นต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งรถยนต์สันดาปภายใน และ รถยนต์พลังงานทางเลือก ไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด และ รถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยปัจจุบัน เลกซัส มีรถยนต์ที่ทำตลาดในประเทศไทยในรุ่นต่าง ๆ ดังนี้

• Lexus LS 500h 
• Lexus ES 300h
• Lexus IS 300h
• Lexus NX 350h
• Lexus NX 450h+
• Lexus UX 250h
• Lexus RX 450h+
• Lexus RZ 450e
• Lexus LM 350h

ปัจจุบัน ในประเทศไทย มีผู้แทนจำหน่าย เลกซัส จำนวน 3 แห่ง และมีบริการจาก LEXUS Service Corner ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐาน เลกซัส จำนวน 15 แห่ง

ด้วยหลักปรัชญา Omotenashi หรือปรัชญาการให้บริการแบบญี่ปุ่นที่ ‘ลึก’ และ ‘ซึ้ง’ อยู่ในใจผู้รับ ‘เราต้อนรับแขกของเราอย่างไร รถยนต์เลกซัสก็ต้อนรับเจ้าของเช่นนั้น’ ซึ่งการบริการแบบ Omotenashi นั้นมีระดับความลึกที่มากไปกว่านั้น เพราะไม่ใช่แค่ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด แต่คือการมองให้ขาดว่าลูกค้าต้องการจริง ๆ คืออะไร และกล้ามอบสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นให้ โดยที่ลูกค้าเองอาจไม่ได้คาดคิด ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Omotenashi และเลกซัสได้นำแนวคิดพื้นฐานนี้เข้าไปอยู่ในรถยนต์เลกซัส

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานคราฟระดับญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกส่งถ่ายผ่านกระบวนการผลิตงานแต่ละชิ้นที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน ก่อนจะพัฒนารถแต่ละคัน เลกซัสจะต้องลงไปสำรวจพื้นที่แต่ละประเทศ ที่รถจะถูกส่งไปขายว่ามีสภาพการจราจรแบบไหน ภูมิอากาศอย่างไร และพฤติกรรมการขับ ขี่ของคนแต่ละประเทศเป็นแบบใด กว่าจะมีการผลิตรถยนต์ขึ้นมาสักคัน

ดังนั้นเอง เลกซัส จึงเป็นรถยนต์ที่ถูกขนานนามว่ารถยนต์หุ่นยนต์สร้างไม่ได้ เพราะไม่ว่าโรงงานผลิตจะมีเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมเพียงใด แต่ในสายพานการผลิตของ เลกซัส จะมีช่างฝีมือระดับ ‘ทาคุมิ’ (Takumi) ซึ่งจะต้องผ่านการฝึกฝนวิชาในการทำสิ่งใดซ้ำ ๆ มากกว่า 6 หมื่นชั่วโมง ถึงจะได้รับความไว้วางใจจาก เลกซัส 

นอกจากนี้ ช่างฝีมือระดับ ทาคุมิ จะต้องผ่านการทดสอบด้วยการพับกระดาษ Origami ให้เป็นรูปแมวด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดให้ได้ภายใน 90 วินาที ซึ่งหากผ่านจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาเทรนนิ่ง 3 เดือนซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนจะผ่านการฝึกเพราะฉะนั้น สุดยอดช่างฝีมือเท่านั้นถึงสามารถเข้ามา เย็บเบาะ เลกซัส ได้

“เศรษฐา” แจงรถหรูป้ายแดง ลูกสาวซื้อให้-จองไว้นานแล้ว

ในไลน์ผลิตทุกขั้นตอน ตั้งแต่ การทำสี การประกอบ จนถึงคุณภาพการตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย จะมีคนยืนแทรกรวมกับเครื่องจักรอยู่ทุกสเตชั่น และขั้นตอนสุดท้ายของแต่ละสเตชั่นจะมี ทาคุมิ คอยตรวจสอบความสมูบรณ์แบบ

ตัวอย่างเช่น ช่างเย็บเบาะต้องมีฝีเข็มที่เท่ากันไม่คลาดเคลื่อน แม้รูปแบบจะซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม หรือ ในขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบคุณภาพ จำเป็นต้องสัมผัสจาก ทาคุมิ เท่านั้น ที่สามารถบอกได้ด้วยหูว่าเสียงของเครื่องยนต์ปกติ หรือ ห้องโดยสารเงียบพอหรือยัง หรือคนที่สัมผัสได้แม้กระทั่งช่องว่างที่คลาดเคลื่อนเพียง 0.2 มิลลิเมตร หรือ คนที่เห็นแม้กระทั่งฝุ่นเม็ดเล็ก ๆ ที่แฝงอยู่ในสีที่พ่นอยู่บนตัวรถ

เปิดตัว TOYOTA ALPHARD / VELLFIRE เจเนอเรชั่น 4 ราคาเริ่ม 4.12 ล้านบาท

จุดแข็งของ เลกซัส ที่ชนะใจลูกค้าคือรถยนต์ คุณภาพสูงในทุกด้าน ความน่าเชื่อถือที่วางใจได้ห้องโดยสารที่เงียบและการขับขี่ที่สบาย คือ DNA หลัก ที่อยู่ในเลกซัสตั้งแต่วันแรกไม่เคยเปลี่ยน

สำหรับในต่างประเทศแบรนด์ LEXUS ถือได้ว่าเป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ที่แข่งขันได้ในตลาดโลกเมื่อเทียบกับแบรนด์สัญชาติเยอรมัน ส่งผลให้ เลกซัส มียอดขาอยู่ในระดับท็อป แต่ทว่าในประเทศไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยอดขายและการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดอาจจะยังไม่เป็นที่กล่าวถึงนัก จากการกำหนดราคารวมถึงปริมาณการนำเข้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด แต่ด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยความตั้งใจและความปราณีตที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ที่มองเห็นความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย 

เช่นเดียวกับ Lexus LM 350h Executive ที่เป็นที่รู้จักกันในวันนี้จากการที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เลือกมาใช้งานเป็นรถประจำตำแหน่ง รวมถึงการวางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าของรถยนต์รุ่นนี้ที่เจาะกลุ่มผู้บริหารองค์กรระดับประเทศรวมถึงเจ้าของกิจการ นั่นหมายความว่า แม้ยอดขายไม่ต้องเยอะในแต่ละปีแต่ LEXUS ก็เจอกลุ่มลูกค้าแล้ว ใช่หรือไม่ !?!