ชวนใส่รองเท้ากะลาเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาบรรพบุรุษ นวดฝ่าเท้าผ่อนคลายเส้น กระตุ้นระบบหมุนเวียนของเลือด


สมุทรสงคราม แม้จะเป็นจังหวัดเล็ก ด้วยมีเนื้อที่เพียง 416,707 ตารางกิโลเมตร แต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะสวนมะพร้าว และมีการทำน้ำตาลมะพร้าวกันมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีช่างฝีมือหลายแขนงทั้งงานศิลปหัตถกรรมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และด้วยภูมิปัญญาบวกกับฝีมือของเหล่าช่างหัตถกรรมที่ได้นำเอาวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่ารวมถึงรองเท้า

ปลายโพงพาง เป็นชื่อตำบลหนึ่งอยู่ในเขต อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ที่ตำบลนี้นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และโฮมสเตย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในยุคแรกๆ เมื่อ 20 ปีมาแล้วชาว ต.ปลายโพงพาง ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันประกอบอาชีพสร้างความกินดีอยู่ดี นั้นก็คือการทำรองเท้าจากภูมิปัญญาและแรงงานชาวบ้านขาย โดยมีการจัดตั้งกลุ่มมานานหลายปีแล้วชื่อ”กลุ่มวิสากิจชุมชนผลิตรองเท้าตำบลปลายโพงพาง” มีนางจุฬา จันทร์เพ็ง ปัจจุบันอายุ 63 ปี เป็นประธานกลุ่ม

นางจุฬา บอกว่า เพราะรองเท้านั้น เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิตของคนเรา และรองเท้าที่ดีนั้นใส่แล้วนอกจากจะต้องมีความปลอดภัย เช่นไม่กัดเท้า ไม่ทำให้เดินลื่นจนหกล้ม ฯลฯ ยังส่งผลให้คนใส่มีสุขภาพอนามัยที่ดี ที่สำคัญราคาถูก รูปแบบทำได้ทันสมัยตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทางกลุ่มวิสากิจชุมชนผลิตรองเท้าตำบลปลายโพงพาง เดิมนั้นผลิตรองเท้าแตะและรองเท้าหนังแม้ทั้งของผู้หญิงและผู้ชายจำหน่ายสร้างรายได้เป็นอาชีพเสริมได้เป็นอย่างดี และด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้กลุ่มมีการพัฒนายิ่งขึ้น ต่อมาจึงได้ผลิตรองเท้าที่ทำจากกะลามะพร้าวซึ่งวัตถุดิบหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง และขายดิบขายดีมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ

นางจุฬา กล่าวอีกว่า ด้วยภูมิปัญญาของคนสมัยบรรพบุรุษทำให้ตนทราบว่า “กะลามะพร้าว” สามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นเมื่อได้สัมผัสกับเนื้อหรือกระดูกของมนุษย์นานๆ เนื่องจากกะลามะพร้าว สามารถช่วยผ่อนคลายเส้น ลดอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ผ่อนคลายจุดต่างๆ เช่น ใต้ฝ่าเท้า ช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นได้ ตนจึงได้หาวิธีนำกะลามะพร้าวมาดัดแปลงทำเป็นรองเท้าโดยเจาะกะลาให้เป็นเม็ดเล็กๆลักษณะกลมเรียว แล้วนำมาร้อยคล้ายการร้อยลูกปัดให้เป็นรูปรองเท้า แล้วจึงนำมาแนบกับพื้นรองเท้าที่ทำจากหนังสัตว์ จะเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมก็ได้ แล้วเย็บติดกับพื้นรองเท้าและใส่ลวดลายต่างๆ ลงไปเพื่อเพิ่มความสวยงาม เมื่อนำมาสวมใส่วันละ 2-3 ชั่วโมงก็จะทำให้รู้สึกสบายฝ่าเท้าหายปวดเมื่อยได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่เริ่มสวมใส่รองเท้ากะลามะพร้าวใหม่ๆ หรือเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว คุณจุฬา แนะนำว่าควรใส่ถุงเท้าและเดินระยะสั้นๆก่อน หากมีอาการเจ็บที่ฝ่าเท้าก็ควรถอดออกหายเจ็บแล้วก็ใส่ใหม่จนเคยชิน ส่วนวิธีการดูแลรักษาก็เหมือนกับรองเท้าทั่วไป แต่ไม่ควรใส่ลุยน้ำบ่อยๆ เนื่องจากเชือกที่ร้อยกะลาอาจจะขาดได้

ปัจจุบันแม้จะยังไม่มีการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่ารองเท้าที่ทำจากกะลามะพร้าวสามารถรักษาโรคต่างๆได้ แต่ความเป็นไทยบวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่นทำให้ตนเชื่อว่าน่าจะมีส่วนอยู่บ้างเพราะคนสมัยโบราณมักจะใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการรักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ได้ป่วย ที่เรียกกันว่า “หมอชาวบ้าน” จึงไม่แปลกที่รองเท้าที่ทำจากกะลามะพร้าว จึงอาจรักษาฝ่าเท้าและร่างกายมนุษย์ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บบางชนิดได้ โดยใช้ใส่เดินในบ้าน ครั้งละประมาณ 15-20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง

นอกจาก กลุ่มวิสากิจชุมชนผลิตรองเท้าตำบลปลายโพงพางจะผลิตรองเท้ากะละเพื่อสุขภาพที่ทำจากมือจนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอทอประดับ 5 ดาวของ จ.สมุทรสงครามแล้วยังผลิต“ไม้คลึง” ใช้นวดตามแขนขาและลำตัวเพื่อคลายเส้นบรรเทาอาการปวดเมื่อย “ลูกปัดกะลา” สำหรับใช้บีบปลดล๊อคนิ้วมือ “หมอนกะลารองคอ” และ “เบาะพิงหลังกะลา”ส่วนราคารองเท้ากะลาทั้งหญิงและชายและผลิตภัณฑ์ต่างๆจากกะลาเพื่อสุขภาพทั้งหมด ราคาต่ำสุด 100 และสูงสุดเพียงแค่ 590 บาท เท่านั้น

ผู้สนใจต้องการรองเท้าที่ผลิตขึ้นจากกะลามะพร้าวและผลิตภัณฑ์ต่างๆจากกะลาดังกล่าวติดต่อได้ที่คุณจุฬา จันทร์เพ็ง ประธานกลุ่มวิสากิจชุมชนผลิตรองเท้าตำบลปลายโพงพาง ทางเข้าวัดประชาโฆสิตาราม ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โทรศัพท์ 091-4099088 หรือ 064-2729189


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *