ทุกท่านอาจจะคิดว่า Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกไซส์เล็กเหมาะกับหนุ่มๆ สาวๆ วัยเริ่มทำงาน มันอาจจะไม่ได้ดีอะไรมากนัก แต่ถ้าคุณได้รู้ข้อมูลเหล่านี้คุณจะมอง Neta V เปลี่ยนไป เพราะมันดีกว่าที่คิด!
ทำความรู้จักกับ Neta V
Neta V รถยนต์ไฟฟ้าไซส์เล็กแบบ Compact Crossover และเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ เนต้า ประเทศไทย นำออกมาจัดจำหน่าย โดยรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะดำเนินการโดยบริษัท Hozon ในชื่อ Neta Auto (Thailand)
Neta V มาในรูปแบบรถยกสูง แบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง หรือจะเรียกว่ารถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก็ย่อมได้ โดยขนาดของตัวรถอยู่ในพิกัดเดียวกับรถยนต์ B-Segment พิกัดเดียวกันกับ Honda Jazz, Honda City Hatchback, Toyota Yaris และ Mazda 2 Hatchback เป็นต้น ถือว่ามีขนาดอยู่ใกล้ๆ กัน
โดย Neta V จะมีมิติตัวถัง ความยาว 4,070 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,690 มิลลิเมตร ความสูง 1,540 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,420 มิลลิเมตร ระยะความสูงใต้ท้องรถ 130 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 335-552 ลิตร ซึ่งถ้าหากเราเทียบกับ City Hatchback ตัวรถ Neta V จะเล็กกว่าเล็กน้อยแค่หลักสิบมิลลิเมตร
ซึ่ง Neta V จะมีการทำตลาดกันมาตั้งแต่ช่วงปี 2022 แล้ว ซึ่งปัจจุบัน Neta V ปี 2023 จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยแต่ในเรื่องของราคามือหนึ่งยังคงเท่าเดิมที่ 549,000 บาท ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงของปี 2023 นั้นก็มีเพียงแค่การเปลี่ยนแบตเตอรี่จาก Lithium-ion NMC ความจุ 38.5 kWh เป็น Lithium-ion LFP ความจุ 40.7 kWh แต่ระยะทางวิ่งสูงสุดจะเท่าเดิมที่ 384 km. มาตรฐาน NEDC และเพิ่มสีเขียว Moonlight Green
มอเตอร์ไฟฟ้าและช่วงล่างของ Neta V
Neta V จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ด้วยมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous พละกำลังสูงสุดที่ 95 แรงม้า กับแรงบิดอีก 150 นิวตันเมตร ด้านแบตเตอรีเป็นแบบ Lithium-Ion LFP ความจุ 40.7 kWh ระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือ Liquid Cooling System นั่นเอง
HEPT 3.0 รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ด้วยหัวชาร์จแบบ Type 2 และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ด้วยหัวชาร์จ CSS 2 มีโหมดการขับขี่ มีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ โหมด Normal และ โหมด Sport ทำอัตราเร่ง 0 – 50 ได้ใน 3.9 วินาที Top Speed 110 กม./ชม. ใหนโหมด Normal และ 124 กม./ชม. ในโหมด Sport
- ระยะเวลาการชาร์ต AC จาก 0 – 100% ภายใน 8 ชั่วโมง
- ระยะเวลาการชาร์ต DC จาก 30 – 80% ภายใน 30 นาที
ช่วงล่างด้านหน้าจะใช้เป็นแบบอิสระ Mcpherson strut พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบกึ่งอิสระ เทรลลิ่งอาร์ม จุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ Neta V เป็นรถที่คนชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ประทับใจไปเลย บางคนก็บอกว่าหลังย้วยยวบ นิ่มเกินไปขับแล้วรู้สึกโยกเยกๆ โครงเครง ซึ่งความจริงก็ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทางและการใช้ความเร็วในการขับขี่ด้วย หลายๆ คนบอกว่าแค่เปลี่ยนโช๊คอัพดีๆ สักชุด Neta V จะขับได้ดีมาก
ในส่วนของระบบเบรกนั้นจะเป็นระบบเบรกเป็นแบบ Electrohydrolic พร้อมระบบ Auto Brake Hold และ Regenerative Braking System ด้านหน้าและด้านหลังเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหมด มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และยางขนาด 185/55/R16 ให้ความรู้สึกเหมือนกับเราขับ City Car ที่แรงและกระฉับกระเฉง
การออกแบบของ Neta V
อย่างที่เราล่าวไปตั้งแต่แรกว่า Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รูปแบบ Compact Crossover ตัวรถเลยจะมีขนาดกระทัดรัดและมีการยกสูงหน่อยๆ เป็นแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง เพื่อความอเนกประสงค์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนวัยหนุ่มสาวในปัจจุบันที่ชื่นชอบในการเดินทาง การใช้ชีวิตหลาหลายแบบ และชอบรถที่มีคันเดียวใช้ได้แบบครอบคลุม
ด้านหน้าของ Neta V เป็นแบบกระจังหน้าแบบปิดทึบตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า มีช่องดักลมด้านล่างอยู่ใต้ป้ายทะเบียนเพื่อใช้งานกับระบบระบายความร้อนต่างๆ ของตัวรถ ตัวช่องดักลมจะนำลมเข้าสู่ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ โดย NETA V มีการใช้ระบบระบายความร้อนมอเตอร์และแบตเตอรี่ด้วยน้ำ ซึ่งจะแยกส่วนการระบายความร้อนออกจากกันอย่างอิสระหมดกังวลเรื่อง Overheat
ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ฮาโลเจน พร้อมไฟ DRL เสริมความโดดเด่นในการขับขี่ช่วงกลางวัน ส่วนไฟเลี้ยวหน้าก็เป็นไฟ LED ด้านข้างของตัวโดดเด่นด้วยตัวรถที่ยกสูงขึ้นมาเล็กน้อยแบบรถ Crossover ส่วนของหลังคารถออกแบบมาให้มีความสูงและลาดลงที่ช่วงท้ายเพื่อเน้นการเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร บริเวณของล้อเองก็จะมีซุ้มล้อที่มีไฟเลี้ยวติดตั้งเหนือซุ้มล้ออีกทีตามสไตล์รถ Crossover สมัยใหม่
แน่นอนว่าเมื่อตัวรถมาในสไตล์ยกสูงแบบ Crossover มันก็ช่วยให้ Neta V คลายความกังวลใจเรื่องแบตเตอรีของผู้ที่อยากใช้งานไปไม่มาก็น้อย เพราะแบตเตอรี่ของ Neta V มีความสูงจากพื้น 165 มม. หรือจะเทียบเท่ากับความสูงของรถยนต์แบบ B-SUV หรือ C-SUV บางรุ่น เหมาะกับการขับขี่บนถนนในบ้านเราแบบไร้กังวลเลยทีเดียว
ด้านท้ายของตัวรถใช้ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED เต็มระบบ มีรูปแบบการออกแบบเป็นรูปตัว Y แนวนอนพาดตั้งแต่แก้มข้างโป่งหลังมาถึงฝาท้ายก็ทำให้เป็นรถไฟฟ้าคันเล็กที่มีดีไซน์ด้านหลังสวยแบบไม่ขาดและไม่เกิน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์เตือนการชนด้านหลังและกล้องมองหลังความคมชัดสูงด้วย
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่ Neta V ให้มามีความจุทั้งหมด 500 ลิตร ความลึกของพื้นที่อยู่ที่ 715 มม. สูง 710 มม. และกว้างสูงสุดที่ 1,130 มม. สามารถเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้ด้วยการพับเบาะนั่งแถวหลังลง ก็จะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้เป็น 1,150 ลิตร ความลึกสูงสุดอยู่ที่ 1700 มม. แต่มันน่าเสียดายตรงที่เบาะที่นั่งแถว 2 ไม่สามารถแยกพับได้และพับไม่เรียบด้วย เป็นข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้
ภายในของ Neta V
การออกแบบภายในตัวรถของ Neta V เมื่อเข้ามาที่ภายในเราจะพบว่าห้องโดยสารมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก นั่นก็เป็นเพราะว่าตัวรถเขามีขนาดเล็กๆ เท่ารถ B-Segment แต่โดยรวมก็ต้องบอกว่ามันก็ไม่ได้นั่งแล้วรู้สึกอึดอัดสำหรับรถไซส์นี้ กลับรู้สึกสบายแบบพอดีๆ น่าจะเป็นผลมาจากตัวหลังคาที่สูง แต่ว่าตำแหน่งของเบาะนั่งจะต่ำไปสักหน่อยทำให้เวลาวางเท้าต้องเหยียดไปด้านหน้าเพื่อความสบายที่มากขึ้น
ตัวเบาะเป็นวัสดุหนังสังเคราะห์มีความนุ่มสบายมาก ทำให้เวลาเราขับเป็นเวลานานๆ ก็จะรู้สึกไม่เหนื่อยล้าเมื่อรวมเข้ากับความรู้สึกที่ขับง่ายในสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า แต่ทว่า! มันเป็นแบบปรับแมนนวลทั้งหมดและปรับได้เฉพาะการเลื่อนขึ้นหน้าถอยหลังและเอนเบาะ ปรับระดับสูงต่ำไม่ได้ น่าเสียดายอีกแล้วทั้งที่เบาะนั่งสบายมากแท้ๆ
มีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นภาษาไทยซึ่งควบคุมง่ายมาก เหมือนกับว่าเรามี Tablet ขนาดใหญ่ประจำตัวรถ ตัวหน้าจอกลางนี้จะรองรับการเชื่อมต่อมือถือผ่านระบบ Bluetooth และ Wifi และสามารถแชร์หน้าจอของมือถือขึ้นไปที่หน้าจอของตัวรถได้ด้วย สามารถแสดงผลได้ทุกแอปฯ ยกเว้นแอปฯ ที่มีลิขสิทธิ์ อาทิเช่น Netflix, Disney Plus ส่วนการทำงานจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่
- ส่วนบนเป็นเมนูควบคุมระบบมัลติมีเดียและการทำงานของตัวรถ
- ส่วนตรงกลาง ใช้เป็นพื้นที่แสดงผลข้อมูลต่างๆ จากเมนูที่เลือกไว้
- ส่วนล่าง เป็นพื้นที่ควบคุมระบบปรับอากาศของตัวรถ และการตั้งค่าระบบไฟ
หน้าจอเรือนไมล์ของตัวรถเป็นมาตรวัดแบบดิจิตอล ขนาด 12 นิ้ว ซึ่งวางเป็นแนวนอนอยู่ด้านบนของคอนโซลเพื่อบอกข้อมูลการขับขี่ ซึ่งจะวางตำแหน่งคล้ายๆ กับ Head Up Display ทำให้เราไม่ต้องละสายตาจากถนนมาที่เรือนไมล์เลย ถืว่าเป็นเรื่องที่สะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้ดี
ในส่วนของพวงมาลัยใช้เป็นแบบพวงมาลัยไฟฟ้ามัลติฟังก์ชั่น แต่น่าเสียดายที่ปรับระดับไม่ได้ ส่วนระบบเกียร์อยู่ที่ก้านพวงมาลัยด้านขวา ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกในการใช้งานนั้นคล้ายคลึงกับรถยุโรป ในดีไซน์ภายในโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ไม่แย่ เพราะเขามาในสไตล์เรียบๆ มินิมอลๆ น่าใช้งาน ดูแล้วทุกอย่างเข้าใจง่ายและสบายตา
อุปกรณ์และออปชันการใช้งานของ Neta V
- หน้าจอมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
- ระบบ Cruise Control
- ก้านใบปัดน้ำฝนแบบปรับหน่วงเวลา
- ระบบปรับอากาศระบบสัมผัส
- ระบบกรองอากาศ N95
- มีไฟอ่านแผนที่ LED
- กระจกมองหลังตัดแสง
- ช่องเสียบ USB สำหรับกล้องหน้ารถ
- ระบบเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter
- เบรกมือไฟฟ้า
- หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัส ขนาด 14.6 นิ้ว
- รองรับการเชื่อมสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS ผ่าน Mobile hotspot
- รองรับการเชื่อมต่อมือถือไร้สาย Bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB 3 ตำแหน่ง
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- กระจกไฟฟ้า 4 บาน
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์
- เบาะคู่หน้าปรับ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลังพับเก็บได้
- ช่องจ่ายไฟ 12 V และช่องเสียบ USB A สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า
- ช่องจ่ายไฟ USB A สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 1 จุด
- ฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าสู่ภายนอก V2L (Vehicle to load) 3,300วัตต์
- ไล่ฟ้ากระจกบานหลัง
ระบบความปลอดภัยของ Neta V
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ESC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถ
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้ง ผ่อนแรงอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยหลัง 3 จุด
- จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX
- กุญแจนิรภัย Immobilizer
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
- กล้องมองหลังขณะถอยหลัง
- เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคา 5 แสนกลางๆ ก็ต้องบอกว่า Neta V เป็นรถที่ให้ทุกอย่างมาคุ้มแล้ว ครบจบเพียงพอต่อกการใช้งาน แต่สำหรับผู้ที่ไม่ค่อนชื่นชอบความรู้สึกในการขับขี่ของ Neta V หรือคิดว่ามันน่าจะขับดีว่านี้ ต้องบอกว่าแก้ไขได้ไม่ยาก แค่โช๊คอัพดีๆ สักชุดก็ทำให้ Neta V เป็นรถที่ขับดีเทียบเท่ารถไฟฟ้าราคาแพงๆ แล้วครับ
เหตุผลที่ควรซื้อ Neta V
บอกเลยว่า Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นที่จะทำให้คุณพร้อมเปิดใจในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เพราะออปชันมาดีแล้ว ราคาเองก็ดีเช่นกัน ถึงแม้ว่า Neta V มือสอง จะราคาไม่ทิ้งห่างกับมือหนึ่งมากแต่ก็ถือว่าช่วยประหยัดงบไปได้ค่อนข้างเยอะอยู่และเมื่อเป็นแบบมือสองก็จะช่วยลดความวุ่นวายหลายๆ อย่างในตอนออกรถด้วย
อีกทั้งตัวระบบอำนวยความสะดวกเองก็ยังมีค่อนข้างครบเลยสำหรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Cruise Control ที่ช่วยให้เราขับทางไกลสบายขึ้น มีไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ อีกทั้งระบบคันเร่งยังเป็นแบบ One-Pedal ปรับระดับได้ ซึ่งช่วยให้การขับขี่ทำได้ง่ายขึ้นไปอีกด้วย
จุดเด่น NETA V
- ราคาต่อปริมาณแบตเตอรีถือว่าถูกที่สุดในท้องตลาดประเทศไทย Neta V ได้ปริมาณแบตเตอร์รี่ถึง 38.5 หน่วย ในราคาจำหน่ายเบื้องต้นที่ 570,000 บาท หรือตกหน่วยละ 14,805 บาทเท่านั้น
- แบตเตอรีสูงจากพื้น 16.5 ซม. ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่แบตเตอรีจะกระแทกลูกระนาด สิ่งกีดขวาง หรือ สถานการณ์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
- Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟฟ้ามาก จากการทดสอบตัวรถใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยเพียง 13.9 หน่วย/100 กิโลเมตร หรือ 7.19 กิโลเมตร/หน่วย เท่านั้น
- ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หมดห่วงเรื่อง Overheat
- ระบบ V2L เปลี่ยนรถเป็นพาวเวอร์แบงค์เคลื่อนที่ได้ ซึ่งจ่ายไฟได้สูงถึง 3.3 kW แรงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าหลายๆ รุ่น อีกทั้งฟังก์ชันความบันเทิงยังมีครบสามารถแชร์ภาพจากมือถือขึ้นจอมัลติมีเดียของตัวรถได้อย่างง่ายดายด้วย
โดยรวมแล้ว Neta V จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าคันแรก และเหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานที่อยากลองของใหม่ ที่สำคัญคือมันมาพร้อมกับความคุ้มค่าหลายๆ อย่าง ให้สิ่งที่รถไฟฟ้าควรจะมีมาแบบครบจบ ในราคาไม่ถึง 600,000 บาท ทั้งมือหนึ่งและมือสอง และปัจจุบันชุกแต่งของ Neta V ก็มีหลายเจ้าที่เริ่มผลิตมาจำหน่ายกันแล้ว สวยๆ ทั้งนั้น วัยรุ่นทรงสปอร์ตไม่ต้องน้อยใจไปครับ
จากการทดสอบของหลายๆ สำนัก เช่น Autospinn เองก็ยังบอกว่า Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ด้วยสไตล์ตัวรถที่ออกมาเป็นทรง Crossover มันก็ทำให้ Neta V เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวแบบนานๆ ครั้งจะไปสักทีด้วย
แต่ทาง Autospinn เองก็มีเพิ่มเติมเอาไว้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยคล่องด้านเทคโนโลยีเท่าไหร่นัก เนื่องจากหลายๆ ฟีเจอร์นั้นจำเป็นต้องทำความเข้าใจในระดับหนึ่งอยู่ หากไม่คล่องด้านเทคโนโลยีมากนักก็ยังพอสามารถขับขี่ได้แต่อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าคุณชอบรถที่ฟีเจอร์เยอะๆ แบบนี้ Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์แน่นอน ใครสนใจรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ก็คลิ๊กเลยที่ Neta V มือสอง
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com