“บีโอไอ” รับลูกนายกฯเศรษฐา ลุยส่งเสริมรถ EV ควบคู่ไปกับไฮบริด หวังช่วยหล่อเลี้ยงซัพพลายเชนรถสันดาป เล็งชงสรรพสามิตแก้กฎหมายลดภาษีไฮบริดเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ให้ความสำคัญแค่ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และพลังงานทางเลือก เข้าทางค่ายญี่ปุ่น เตรียมส่งไฮบริดใหม่ลงตลาด ทั้งเก๋งและอีโคคาร์
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ดูแลค่ายรถญี่ปุ่นที่ยังผลิตรถยนต์สันดาปภายใน หรือไอซีอี เพื่อเป็นฐานผลิตสุดท้ายของโลกอีก 15 ปีข้างหน้านั้น BOI อยู่ระหว่างหารือกับทั้งค่ายรถและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อพิจารณาแนวทางสนับสนุนให้รอบคอบ ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปใดโดยต้องขอเวลาก่อน
หนุน EV ควบคู่สันดาป
แต่ BOI ยังคงเป้าหมายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ระดับโลก โดยให้ไทยเป็น 1 ในอาเซียนและ Top 10 ของโลก พร้อมกับวางเป้าหมาย รถ EV ตามนโยบาย 30@30 คือในปี 2030 จะผลิตรถ EV ให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ในประเทศ โดยอีก 70% จะส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อย CO2 โดยรถยนต์สันดาป ซึ่ง BOI ยังคงให้การส่งเสริมรถยนต์สันดาปอยู่ แต่ก็จะให้ความสำคัญใน “กลุ่มรถไฮบริด” มากขึ้น
ชงปรับภาษีสรรพสามิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางที่บีโอไอจะมุ่งไป สอดรับกับแนวคิดนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าจะต้องให้เวลารถสันดาปอยู่ต่อไปอีก 10-15 ปี พร้อมทั้งทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางของช่วงสุดท้ายของการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป โดยอาจจะมีการปรับปรุงภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะประกาศใช้ต้นปี 2569
เพราะหากพิจารณาไส้ในภาษี (ดูตาราง) ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือสิทธิประโยชน์กลุ่มรถไฮบริด ดังนั้นหากรัฐบาลใต้องการสนับสนุนกลุ่มรถไฮบริดจริง ก็ต้องเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อรักษาระบบซัพพลายเชนรถสันดาป โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วน ตั้งแต่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ ท่อไอเสีย ถังน้ำมัน หม้อน้ำ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไปได้ เพราะรถกลุ่มไฮบริด มีเครื่องยนต์สันดาปภายในทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ประเด็นนี้สอดรับกับผู้บริหารโตโยต้าที่เคยออกมาเรียกร้องว่า ในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ กลุ่มรถไฮบริดยังไม่ได้สิทธิประโยชน์แต่อย่างใด มีเพียงแค่ปิกอัพไฮบริดเท่านั้นที่ได้ภาษีลดต่ำลง และเชื่อว่าแนวทางนี้ก็น่าจะทำให้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นหันไปผลักดันรถไฮบริดออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มอีโคคาร์ไฮบริด
@media (min-width: 1139.98px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }@media (max-width: 768px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }
คลังหวั่นไม่ตรงตามเทรนด์โลก
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวยอมรับกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รัฐบาลชุดนี้มีความตั้งใจจะดูแลรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และแนวโน้มคงต้องผลักดันและส่งเสริมรถยนต์ประเภทไฮบริดเพิ่มเติม จากเดิมที่โครงสร้างภาษีรถยนต์ในปัจจุบันมุ่งเน้นส่งเสริมรถ EV และให้แรงจูงใจแค่รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด กับพลังงานทางเลือกอื่น ๆ
เช่น ฟิวเซลล์เท่านั้น เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานสอดคล้องกับรถ EV อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลจะส่งเสริมรถไฮบริด ก็คงต้องหารือกับทางกรมสรรพสามิตถึงข้อดีข้อเสียอีกที เพราะอาจจะเป็นการดำเนินนโยบายถอยหลังกลับไปที่รถสันดาปภายใน ที่ควรจะค่อย ๆ ลดลงตามเทรนด์โลกที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“ตอนนี้ทิศทางประเทศไทย เรามุ่งส่งเสริมรถอีวี โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ก็พัฒนาไปในทางนี้ พวกสถานีชาร์จต่าง ๆ แต่รถไฮบริดไม่มีการชาร์จ ดังนั้นถ้าจะส่งเสริมไฮบริดอีกก็จะเป็นการถอยหลัง ซึ่งก็ต้องมาคุยกัน” แหล่งข่าวกล่าว