กำลังซื้อรถชะลอตัว ผู้ซื้อเน้นรถประหยัดน้ำมันมากขึ้น
โดยตั้งแต่เดือน มกราคม – สิงหาคม 2566 มียอดขายรถยนต์ 524,784 คัน ลดลงจากปี 2565 ในช่วงเดียวกัน 6.21 % โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 429,136 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 16.46 %
- รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 41,844 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 837.79 %
- รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,585 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 39.54 %
- รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 52,219 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 30.31 %
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,304,883 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ถึง 7.64 % โดยแบ่งเป็น
- รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 1,303,845 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 7.63 %
- รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 818 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 10.80 %
- รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 220 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 100 %
ซึ่งยอดจดทะเบียนใหม่รถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวน 9,076 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว 293.92 % โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 6,619 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ถึง 458.57 % แบ่งเป็น รถยนต์นั่งจำนวน 6,594 คัน และรถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 25 คัน
จากยอดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในไทยนั้นมีอัตราการเติบโตเป็นอย่างมาก และเป็นที่น่าจับตามองของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศที่จะมาแข่งขันกันในประเทศไทย ส่งผลดีให้กับผู้บริโภคมีตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายมากขึ้นจากเมื่อก่อนพอสมควร
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง