Deepal S7 หรือว่านี่คือไม้ตายของ Chang’An ในการสู้กับ Tesla Model Y


.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}

ช่วงนี้คุณผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าทำไมคอลัมน์ของผมบนไทยรัฐออนไลน์วันอาทิตย์
มีเรื่องรถ EV จีนเยอะจัง ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่าน้าฉ่าง อาคม รวมสุวรรณ ท่านหัวหน้าทีมผม แกจะเบื่อหรือเปล่า แต่ผมเป็นลูกน้องเลวครับ บางทีไม่ได้ดูหรอกว่าหัวหน้าอยากได้อะไร ปกติจะเขียนแต่รถเก่า รถมือสอง แต่ช่วงนี้ทรัพยากรภาพรถมือสองสเปกประเทศไทยสวยๆ มันหายากเหลือเกิน

เอาเป็นว่าช่วงนี้เราก็เปลี่ยนบรรยากาศไปเขียนตามกระแสสักหน่อยดีไหมครับ
ในช่วงที่ผ่านมา คุณจะได้ยินชื่อแบรนด์ Chang’An บ่อยหน่อย ซึ่งเห็น CHANG
มานี่ไม่ใช่ค่ายรถของน้าฉ่างแกนะครับ แต่อ่านว่าฉางอัน เป็นค่ายรถที่ผมเคยเขียนสั้นๆ ลงในบทความพาชมเทคโนโลยียานยนต์จีนเมื่อช่วงต้นปี Chang’An นี่ผลิตรถหลายแบบมาก รถเบนซิน รถไฮบริด มีหมด แต่พอจะเน้นการทำ EV ทาง Chang’An ก็ไปจับมือกับบริษัทผลิตแบตเตอรี่รายยักษ์อย่าง CATL และ Huawei ซึ่งคุณก็รู้ว่าเจ้าหลังนี่ทำอะไร เปิดมาเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าล้วนชื่อ Chang’An Deepal ในภายหลังก็ย่อเหลือ Deepal หรือคนจีนจะเรียกว่าเฉินหลาน (Shenlan) หรือ Deep Blue แล้วก็ขายรถซีดานที่ด้านหน้าเห็นแล้วนึกถึง Silvia S15 ชะมัด..ชื่อรุ่น SL03 ซึ่งก็มียอดขายไม่แย่ แต่ไม่เปรี้ยงนัก ทางแบรนด์จึงต้องมีรถอีกรุ่นไว้โกยเงิน..ซึ่งมันก็ต้องเป็นพวก SUV/Crossover นั่นแหละ ซึ่งนั่นก็คือที่มาของ S7

และถ้าคุณดูรูปทรงแล้วคุณดูไม่ออกว่าเป็นรถจีนก็อย่าแปลกใจเลยครับ วัยรุ่นจีนสมัยนี้ไม่ได้ชอบรถที่มีกระจังหน้าธีมหงฉี วิ่งมาทีแสยะยิ้มเหมือนวาฬฟันเหล็กขนาดนั้น S7 มีทรงที่เปรียว Lean และ Clean ซึ่งผมมองว่าแบบนี้แหละคนไทยจะชอบเหมือนจีน คนที่คุมการออกแบบภายนอกคือคุณ Betrand Bach ซึ่งก่อนจะมาทำกับ Chang’An ก็เคยไปนั่งตำแหน่งสูงๆ ใน Volkswagen กับ GM Europe (Opel) มาแล้ว สมัยยังเอ๊าะก็เคยทำงานกับ Mitsubishi ที่สำนักงานยุโรปมาก่อนในแผนกดีไซน์ รถที่แกทำเลยมักจะติดอารมณ์หน้าดุนิดๆ

ต่อให้เป็นรถเล็กอย่าง Opel Karl ก็ตาม แล้วพอมีข่าวว่า Chang’An มาจับมือคุยกับ BOI ต่างคนต่างบินไปมาหาสู่กันตั้งแต่ช่วงต้นปี เราสรุปได้ว่า Chang’An ลงทุน 9,800 ล้านบาท จะตั้งโรงงานในไทย แล้วใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถพวงมาลัยขวา ส่งไปขายในอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และแอฟริกาใต้ อันนี้เป็นเรื่องดี เพราะแม้รายได้จะเป็นของจีน แต่ก็ยังมีคนไทยได้เงินเดือน เม็ดเงินบางส่วนก็เข้าสู่ระบบของเราบ้าง สร้างงานให้คนไทยบ้าง แล้วเขาไม่ได้จะผลิตแค่รถ EV นะครับ ยังมีรถไฮบริด รถ PHEV และพวก EV แบบมีเครื่องห้อยหน้าทำหน้าที่ปั่นไฟ ซึ่งไม่ใช่ระบบ Nissan Kicks นะครับ EREV หรือ Extended Range Vehicle ของ Chang’An วิ่งได้ราวร้อยกิโลก่อนที่จะต้องสตาร์ตเครื่อง แต่ต่างจากรถ PHEV ตรงที่เครื่องยนต์ไม่สามารถส่งกำลังไปล้อได้ แค่นั้น

แต่รุ่นที่น่าจะเอามาเป็นหัวหอกทำตลาดในไทยก็คงเป็นรถ EV และระหว่าง SL03 ซีดาน กับ S7 ครอสโอเวอร์ ถ้าใครทำการบ้านมาบ้างก็ต้องบอกให้เน้นอย่างหลังแหละ เพราะดูคนที่เขาทำมาก่อนอย่าง Tesla สิครับ 9 เดือนที่ผ่านมา Model 3 ขายได้แค่ราว 1,800 คัน แต่ Model Y ฟันยอดไป 4,700 คัน ใครว่าคนไทยรัก SUV เพราะการลุย ผมว่าไม่ใช่ล่ะ เรารักเพราะเราชอบที่จะใช้รถแบบนี้ ดังนั้น S7 ก็ควรเป็นตัวลุยที่ Deepal เน้น จากข้อมูลของน้านิธิ ท้วมประถม แห่ง AutolifeThailand เขาจะใช้ชื่อ Deepal ซึ่งฟังแล้วชวนนึกถึงชื่อเพื่อนสนิทชาวอินเดียของผมมากกว่ารถ EV

แต่ก็ช่างเถอะครับ ผมไม่แน่ใจว่าคนไทยจะชอบชื่อ “เฉินหลาน” แบบผมด้วยหรือเปล่า หรือ ดี-พาล มันจะดีกว่า

Deepal S7 นี้ ถ้าเอามาจอดข้าง Model Y ตัวมันจะฟัดกันแบบโคตรตรงรุ่นเหมือนไก่ชนเป๊ะคลาส ตัวยาวใกล้เคียงกัน ความกว้างความสูงแทบจะลอกเลขกันมา ทรงรถก็เป็น Crossover แบบเอา SUV มาผสมหลังคาสปอร์ตเหมือนกันอีกต่างหาก แม้แต่ประตูก็เป็น Frameless Door ไร้กรอบเหมือนกัน ภายในรถก็มาในแนวปุ่มน้อย จอใหญ่ และใส่หลังคา Panoramic มาให้เหมือนกัน แต่จากจุดนั้น รถแต่ละคันจะเริ่มโชว์ความต่างในแนวของตัวเองบ้าง และมีจุดที่เหมือนกันบ้าง ปรัชญาในเรื่องพละกำลังก็อย่างหนึ่งล่ะ..ในขณะที่ Tesla Model Y มีรุ่นที่พลังกระตุกจิตกระชากใจ Dual Motor ม้าหลายร้อยไว้แกล้งแม่ยาย

รถอย่าง S7 นี่ Tesla เห็นพลังแล้วถ้ามันหัวเราะได้มันคงทำแหละ เพราะ Deepal
ดูเหมือนไม่ได้สนเรื่องความแรงความเร็วอะไรเลย ในโมเดลที่เป็น EV นี้ ถ้าเป็นในจีน จะมีขายอยู่ 2 รุ่น รุ่น Pure Electric 520MAX คือรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่เล็กกว่า (66.8kWh) และชาร์จเต็มวิ่งได้ไกล 520 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC แต่ดันเป็นรุ่นที่ถูกกว่า แล้วก็ยังมีแรงม้าเยอะกว่า คือ 258 แรงม้า อีกรุ่นหนึ่งคือรุ่น Pure Electric 620MAX ฟังจากชื่อก็รู้ล่ะว่าวิ่งได้ไกล 620 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC เพราะแบตเตอรี่จุไฟ 79.97 kWh (เพิ่มอีกนิดให้ครบ 80 จะเป็นอะไรมากไหม) แต่กลับมีกำลังน้อยกว่าคือ 218 แรงม้า แม้ว่าจะมีแรงบิด 320 นิวตัวเมตรเท่ากัน ซึ่ง 320 นิวตันเมตรนี่ อย่าว่าแต่ไปหาเรื่อง Tesla เลย ไอ้อย่างหลังนี่จับเช็งกับ Atto 3 ของป้าข้างบ้านจะรอดหรือเปล่าเถอะ

รถทั้งสองแบบมีแต่ขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น ดังนั้นดูจากระบบขับเคลื่อนและกำลัง คุณจะไปสายซิ่งก็คงไม่ใช่เรื่อง ความเร็วสูงสุดก็จำกัดแค่ 180 กม./ชม. ซึ่งพวกคนเผ่าเท้าหนักแบบผมอาจไม่ว้าว แต่คุณต้องมองว่าคนไทยส่วนใหญ 80% แค่ต้องการรถที่ “ไม่อืด” และ “ไม่อายอีโคคาร์พันสองบนทางขึ้นอ่างขาง” อะไรที่ผ่านสองมาตรฐานสยามนี้ได้คือดีพอ (ซึ่งมันก็ดีพอแล้วจริงๆ ไม่เถียง) ตัวเลขเคลมจากบริษัทมา 6.7-7.5 วินาที เอาจริงๆ ผมว่าผมให้บวกไปอีกวินึงเลย คนไทยที่พร้อมซื้อจริงเขาไม่เกี่ยงหรอก ตราบใดที่หนี Fortuner ได้

แต่เอาล่ะ ข้อดีของการที่คุณไม่บ้าพลังมันก็มีไม่น้อย คุณเอ๋ย รถ EV ที่จะวิ่งด้วยความเร็วสูงระดับหาพระแสงนั้น ทั้งมอเตอร์ ระบบ EV และระบบระบายความร้อนมันต้องใช้ต้นทุนเพิ่มอีกเยอะเพื่อให้ขายออกไปลูกค้าไปซัดแช่แล้วไม่พัง แต่พอไม่ต้องเน้นเรื่องบ้าพลัง ต้นทุนระบบขับเคลื่อน และราคารถ ก็มีโอกาสที่จะถูกลง แล้วมองตามความจริงคนไทยส่วนมากชอบรถสวย และถูก มากกว่าสวย แรง แต่แพง นึกออกใช่ไหมครับ

ในด้านอุปกรณ์ เราอาจจะยังฟันธงไม่ได้ว่ารถสเปกไทยจะมีอะไรมาบ้าง (และในระยะแรกที่โรงงานยังสร้างไม่เสร็จ รถที่ขายบ้านเราก็คงต้องนำเข้าจากจีนไปก่อน) อย่างไรก็ตาม ปรายตาดูตารางอุปกรณ์ของรถในจีนแล้วก็นับว่าเขาให้มาเยอะแบบกะจะแข่งกับ Tesla จริง แม้ว่าระบบการขับอัตโนมัติอาจจะสู้ลูกพ่ออีลอนไม่ได้ แต่ก็มีเทคโนโลยีประเภทขับไปจอดตามช่องที่จอดรถเองได้ (Automatic Valet Parking) และไม่ต้องพูดถึงของพื้นๆ ของยุคนี้อย่างเรดาร์ ระบบเตือน ระบบครูสคอนโทรลปรับความเร็วอัตโนมัติ เบรกก่อนชนหน้าและหลัง กล้องรอบคัน ซึ่งดูได้ว่า Deepal ก็พยายามจะยัดอุปกรณ์มาให้ตี Tesla แบบไม่ให้เสียชื่อ

บางอย่างที่แตกต่างกันก็มี เช่น หลังคา Panoramic กระจกใสบานกว้างนั้น Deepal เป็นรถสายคนหัวเย็นของแท้ครับ จัดแจงใส่ม่านกันแดดไฟฟ้ามาให้เรียบร้อยจากโรงงาน แต่ไหนๆ แล้ว Deepal ก็คิดค่าม่านคืนด้วยการตัด Wireless Charger ออกเหลือ 1 จุดที่ด้านหน้า ของ Tesla นี่จะยังมีสองจุดที่ด้านหน้า แต่ของ Deepal นั้นมีช่องวาง 2 จุด แต่เฉพาะฝั่งคนขับถึงจะชาร์จได้ เรื่องจอกลางนั้น ก็เน้นใหญ่โต 15 นิ้ว แข่งกับ Tesla เช่นกัน ตัวจอนั้นแม้จะไม่มีลูกเล่นบิดแนวตั้งแนวนอนแบบพวก
BYD แต่สามารถบิดซ้ายบิดขวาได้ 15 องศา และสามารถตั้งค่าให้จำหน้าของเจ้าของรถได้ สมมติว่าเอนเบาะหน้าราบแล้วย้ายตัวไปเอกเขนกเบาะหลังอีกฝั่ง เมื่อระบบตรวจเจอหน้าเจ้าของว่าย้ายไปอีกฝั่ง จอก็จะหันตามให้โดยอัตโนมัติ ดูแล้วไม่จำเป็น แต่ก็ถือว่าใจดี

S7 ในปัจจุบันมีภายใน 2 สี คือ สีส้ม และสีดำ เบาะไฟฟ้าที่ให้มาในสเปกมาตรฐาน
ด้านคนขับปรับได้ 10 ทิศ ด้านคนนั่งได้แค่ 4 ทิศ คือปรับสูงต่ำไม่ได้ อันนี้ก็ลดต้นทุนไปนิด แต่ Deepal มี Package ออปชันเสริม ปรับเบาะหน้าเป็น Full-spec ปรับรองหลังตอนบนตอนล่างได้ ปรับได้ 14 Way สำหรับคนขับ และ 10 Way สำหรับคนนั่ง ปรับรองน่องได้ และมีเบาะนวดให้ทั้งสองข้าง เครื่องเสียงมีโลโก้ที่ลำโพง ตอนแรกก็นึกว่าเป็นยี่ห้อ Hi-end อ๋อ เปล่า เขาสับขาหลอกเขียนอักษรประดับว่า “Deepal” ซึ่งก็คือยี่ห้อรถนั่นแหละ แต่ก็มี 1 ลำโพง และมีลำโพงฝังที่หมอนรองศีรษะคนขับอีกด้วยครับ แล้วก็จะมีจอ Head- Up Display แบบ Augmented Reality ฉายข้อมูลซ้อนบนภาพจริงบนกระจกหน้าที่อลังการกว่าจอ HUD รถยุโรปสามล้านกว่าบาทเยอะ ส่วนล้ออัลลอย 19 นิ้ว มีให้เลยไม่ต้องเสียเงิน อยากเสียเงินก็สั่งล้อ 20 นิ้วได้ และสำหรับรุ่น 520MAX จะสามารถสั่งล้อ 21 นิ้วได้

ทั้ง 520MAX และ 620MAX อุปกรณ์มาตรฐานเท่ากันหมด ไม่ต้องเสียเวลาเทียบครับ คือคุณเลือกเลยว่าเน้นแรงไม่เน้นระยะ หรือเน้นระยะ ไม่เน้นแรง มันมีแค่สองรุ่นนั้น ส่วนพวกรุ่นที่มีเครื่องยนต์เสริม ผมคิดว่าทางไทยคงไม่เน้นจะขาย แต่ถ้าขายได้ก็คงดี เพราะมันจะเหมาะมากกับคนที่วิ่งทางไกลประจำ และลำพังระยะวิ่งไฟฟ้าล้วน 100-120 กิโลเมตรนี่เหลือพอสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว

ดูจากรูปทรงของรถ ขนาดตัวของรถ และอุปกรณ์ที่มีให้ ผมว่าสุดท้ายอยู่ที่ราคา ว่ามาถึงไทยแล้วจะมีการคิดรุ่นย่อยแตกออกมาจากทางจีนเพื่อทำราคาไหม ตัดออปชันออกบางตัวแล้วทำราคาตัวเริ่มให้ลงไปยั่วลูกค้ากลุ่ม BYD Atto3 เลยหรือเปล่า แต่ถ้าสมมติว่าไม่ ตอนนี้ราคาขายที่จีนของรุ่น 520MAX 190,000 หยวน หรือราวๆ 950,000 บาท รุ่น 620MAX อยู่ที่ 204,000 หยวน หรือ 1,008,000 บาท มันมีโอกาสที่พอมาไทย สองรุ่นนี้อาจจะห่างกันไม่เกินแสนบาทก็ได้ ซึ่งถ้าไปเทียบกับราคาของ Tesla Model Y Standard ที่จีน ตอนนี้อยู่ประมาณ 260,000 หยวน หรือราว 1,290,000 บาท

ลองเทียบกันแบบนี้แล้วดูว่าในไทย Tesla Model Y หลังมหกรรมเผาไฟบนดอยครั้งล่าสุด ราคาตัวเริ่มต้นลงมาเหลือ 1,699,000 บาท ก็ต้องดูว่าแบรนด์ Deepal จะเล่นเกมแบบไหน เล่นแบบตัวท็อปของเราเท่าตัวล่างของเขา..หรือเอาราคาแบบที่ลูกค้าเห็นแล้วกรี๊ด ไม่ต้องคิดนาน ถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่า 1.5-1.6 ล้านบาทจริง ในเกมนี้ผู้คนส่วนมากที่ไม่ได้ชอบรูปโฉมของ S7 มากเป็นพิเศษ น่าจะไปทาง Tesla มากกว่า

ดังนั้นถ้า Deepal จะไม่เล่นเรื่องส่วนต่างของราคา ก็ต้องเล่นเรื่องส่วนต่างของด้านบริการหลังการขาย ซึ่ง Tesla ในปัจจุบันนั้นก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ รถน่ะขายดีไม่มีใครว่า แต่ขายไปแล้วต้องต่อคิวกันบริการ อีกทั้งเรื่องที่ทั้งประเทศมีศูนย์บริการอยู่แห่งเดียวในยามนี้ ก็เป็นข้อจำกัดของแบรนด์ Tesla ซึ่งแบรนด์ Deepal ดูทรงแล้วไม่น่าจะมั่นขนาดเอาศูนย์เดียวมาให้ลูกค้าอย่างที่ Tesla ทำอยู่ตอนนี้ เพราะไม่ใช่คนไทยทุกคนหรอกครับที่จะยอมวัดกับบริการสมัยใหม่ ออนไลน์ทุกอย่าง คนไทยอีกมาก ที่ต่อให้ใจเขาเปิดรับรถไฟฟ้าแล้ว แต่พอเสีย ต้องหาศูนย์ใกล้บ้านได้ ต้องมีช่างในประเทศที่คุยรู้เรื่อง หรืออย่างน้อยก็ต้องมีผู้บริหารที่รู้จักรับมือ และรู้จักคุยกับลูกค้าตัวเอง นั่งเกาหัวอยู่ในประเทศนี้บ้างแหละ

ก็ต้องมาลองดูว่าแบรนด์ Deepal กับรถของพวกเขาจะเปิดราคาเท่าไร และใช้แผนใดในการเข้าห้ำหั่นกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งจะบอกเลยว่า Tesla นี่ก็หิน BYD..แม้จะยังไม่มี SUV/Crossover ไซส์ขนาดนี้มาชน แต่ลำพังยอดขายที่เขาโกยอยู่ก็ตั้งเสาโป๊ะปลาทูในไทยได้ระดับหนึ่งแล้ว หน้าใหม่อย่าง Deepal จะทำอย่างไร ว้าว..ไม่คิดมาก่อนเลยครับว่าตอนนี้ตลาด EV จะมีแนวโน้มสร้างเรื่องมันๆ ได้ขนาดนี้.


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *