ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จึงมีแนวคิดในการพัฒนาอาหารไทย มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับอาหารไทยเชิงสร้างสรรค์ให้มีคุณภาพและความปลอดภัยอาหารในระดับสากล โดยนำร่องในปี 2568 จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ขนมหม้อแกงชีสเค้กรสทุเรียน โดยบริษัท เพชรบุรีไทยรีเสริช จำกัด (ลุงเอนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์) จ.เพชรบุรี ขนมหวานของไทยขึ้นชื่อในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น
ด้วยการนำทุเรียน ซึ่งเป็นผลผลิตที่มีมากในจังหวัดระยองและภาคตะวันออกมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้เกิดมูลค่าในเชิงพานิชย์ได้ และแนวทางในการพัฒนาจากกกระบวนการพาสเจอไรส์ซึ่งผลิตภัณฑ์จะมีอายุสั้น และต้องเก็บแบบแช่เย็น มาใช้กระบวนด้านเทคโลยีสเตอริไลส์ ช่วยเพิ่มอายุของขนมหม้อแกงให้นานขึ้น และตอบสนองความต้องการไปยังกลุ่มผู้บริโภคต่างประเทศได้ และขนมทองม้วนกรอบ รสทุเรียน โดยบริษัททองสุขฟู้ด จำกัด จ.กาญจนบุรี ขนมไทยโบราณ ขนมมงคลที่สื่อถึงความมั่งมี ซึ่งมีวัตถุดิบหลักเป็นแป้ง มะพร้าว และน้ำตาลปี๊บ พัฒนาสูตรเพิ่มวัตถุดิบทุเรียน ซึ่งเป็นราชาผลไม้ไทย ที่มีรสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอมของทุเรียน กลายเป็นทองม้วนกรอบรสทุเรียน
ทั้งนี้ นางสาวเชาวนี พันธุ์พฤกษ์ ผู้จัดการฝ่าย หน่วยงานบริหารกิจการเพื่อสังคม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กับสถาบันอาหารภายใต้ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยเชิงสร้างสรรค์ GC เป็นการพัฒนาอาหารไทยมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม ผนวกกับทุนทางวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ที่แสดงถึงอัตลักษณ์อาหารและวัฒนธรรมไทยสู่ระดับนานาชาติ โดยร่วมมือกับสถาบันอาหาร นำผู้เชี่ยวชาญประยุกต์ใช้องค์ความรู้ต่อยอดงานวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร สร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ผลิตในระดับชุมชนและผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยเชิงสร้างสรรค์ออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์
ด้าน นางอรุณี อุสาหะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและผู้ประกอบการ ผู้แทนผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยอีกว่า เชื่อว่าการดำเนินงานโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยเชิงสร้างสรรค์ GC จะเป็นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของชุมชนไทยให้แข็งแกร่ง และเติบโตได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งเน้นสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ เพื่อยกระดับและพัฒนาความสามารถด้านความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่า และสร้างรายได้ รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรม และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน