ฮอนด้าร่วมงาน เจแปน โมบิลิตี โชว์ 2023 มาด้วยแนวคิดขับเคลื่อนหลากหลาย โชว์ไฮไลต์ยานพาหนะอัตโนมัติ รถจากวัสดุรีไซเคิลบางส่วนและ Prelude EV

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 66 นายโทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อํานวยการ ประธานกรรมการบริหารและตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จํากัด หรือ Honda กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ บูธฮอนด้า งาน “เจแปน โมบิลิตี โชว์ 2023” หรือ Japan Mobility Show 2023 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า Tokyo Motor Show ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Japan Mobility Show โดยภายในงานครั้งนี้ ฮอนด้านําเสนอมุมมองแห่งอนาคตที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ได้มีเพียงแค่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เท่านั้น

แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริการและเทคโนโลยีด้านการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ฮอนด้าเป็นบริษัทที่เริ่มการดําเนินธุรกิจจากรถจักรยานยนต์ ต่อมาได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนให้ครอบคลุมถึงรถยนต์ ปัจจุบันครอบคลุมไปจนถึงอากาศยาน ภายในบูธไม่เพียงจัดแสดงแค่รถยนต์ แต่ยังรวมถึงรูปแบบของการขับเคลื่อนหลากหลาย ทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่ ฮอนด้ากําลังมุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นจริง

แรงบันดาลใจของโกลบอลแบรนด์สโลแกนของฮอนด้า The Power of Dreams – How we move you ปีนี้เป็นปีที่ฮอนด้าฉลองครบรอบ 75 ปี เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ด้านการนําเสนอคุณค่าที่หลากหลายแก่ลูกค้าและสังคม ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อน สามารถพูดได้ว่า ฮอนด้า เติบโตขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ เพราะมีความฝันเป็นแรงขับเคลื่อนอยู่เสมอและสามารถเผชิญกับความท้าทายในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้

The Power of Dreams – How we move you คือ โกลบอลแบรนด์สโลแกนที่ต้องการถ่ายทอดข้อความที่ว่า ความฝันของพนักงานฮอนด้าทุกคนเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ฮอนด้ามาโดยตลอด ในขณะที่หลากหลายผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนและบริการสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยพลังแห่งความฝันเหล่านี้ สามารถนําพาผู้คนไปยังที่ต่างๆ ขับเคลื่อนหัวใจของผู้คนและช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความฝันของตนเอง ซึ่งจะนําไปสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่อีกมากมายในอนาคต

นายโทชิฮิโระ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวคิดหลักของบูธฮอนด้าครั้งนี้ คือ Honda Dream Loop ที่สะท้อนให้เห็นถึงอนาคตเปี่ยมไปด้วยความฝันอันหลากหลายของผู้คนและจะยังคงแผ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นจากความฝันของฮอนด้า คุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า “ก้าวข้าม” และ “เพิ่มพูน” ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนที่รวบรวมความฝันของฮอนด้าเอาไว้จะช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจํากัดต่างๆ

เช่น เวลาและสถานที่ และเพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสให้ทุกคน ทั้ง 2 สิ่งนี้ ถือเป็นคุณค่าสําคัญของผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนทุกประเภท ที่ฮอนด้านําเสนอมาตลอด 75 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทและจะยังคงเป็นคุณค่าที่ต้องการนําเสนอต่อไปทั้งในปัจจุบันและอนาคต

“การขับเคลื่อนทําให้เรามองเห็นสภาพแวดล้อมใหม่ๆ พบปะผู้คนใหม่ๆ ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทําให้โลกดูกว้างขึ้นในทางกลับกันการขับเคลื่อนต้องเผชิญกับข้อจํากัดต่างๆ เช่น ต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดหมาย และบ่อยครั้งไม่สามารถทําอะไรได้ในช่วงเวลานั้น หรือไม่สามารถไปถึงจุดหมายของสถานที่บางแห่งได้ เนื่องจากขาดวิธีการเดินทางที่เหมาะสม ซึ่งฮอนด้ามุ่งหวังให้ผู้คนสามารถก้าวข้ามข้อจํากัดดังกล่าว และต้องการนําเสนอความสุขและอิสระในการเดินทางต่อไปในอนาคต การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนไปได้เร็วและไกลยิ่งขึ้น เราสามารถไปยังสถานที่ที่เราไม่สามารถไปได้หากใช้ความสามารถของมนุษย์เพียงลําพัง ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเคลื่อนที่ใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้คนสามารถทําสิ่งที่ไม่เคยสามารถทําได้มาก่อนนั่นคือคุณค่าของการเพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสของผู้คน”

สำหรับบูธฮอนด้าได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนต่างๆ ตามแนวคิดดังกล่าว ดังนึ้

Cruise Origin ยานพาหนะอัตโนมัติที่จะช่วยให้ก้าวข้ามข้อจํากัดของเวลา พื้นที่ภายในของยานพาหนะคันนี้ มอบความเป็นส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ใช้งานจึงสามารถใช้เวลาเดินทางได้อย่างอิสระมากขึ้น เช่น การจัดการประชุม หรือการใช้เวลาอย่างสนุกสนานกับครอบครัวโดยไม่ต้องกังวลกับคนอื่นรอบข้าง ยานพาหนะคันนี้ จะช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจํากัดของเวลาได้อย่างแน่นอน

เพราะเวลาถือเป็นข้อจํากัดสําหรับคนส่วนใหญ่ ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนที่ช่วยให้ผู้คนใช้เวลาที่มีจํากัดได้ อย่างเท่าเทียมกัน ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทําในสิ่งที่มีประโยชน์มากขึ้น เปรียบเสมือนการมอบคุณค่าอันมหาศาลให้กับผู้คน โดยฮอนด้าร่วมมือกับ GM และ Cruise วางแผนจะเปิดตัวบริการเรียกรถไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ Cruise Origin ซึ่งจะเริ่มให้บริการภายในต้นปี พ.ศ. 2569

Honda eVTOL และ HondaJet จะต่อยอดการขับเคลื่อนในรูปแบบสามมิติสู่ท้องฟ้าและช่วยให้ก้าวข้ามข้อจํากัดของสถานที่และระยะทางได้เมื่อสามารถผสานการทํางานของเครื่องบินเหล่านี้ เข้ากับระบบการขับเคลื่อนภาคพื้นดินได้จะช่วยให้เดินทางได้อย่างอิสระและราบรื่นไร้รอยต่อมากขึ้น ทั้งภาคพื้นดิน ในมหาสมุทรและบนท้องฟ้า

ทําให้อุปสรรคที่ผู้คนต้องเผชิญในการเดินทางระยะไกลจะลดลง ผลิตภัณฑ์นี้จะทําให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ชานเมืองที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และไปทํางานในเมืองตามความจําเป็นได้สะดวก ง่ายดายขึ้น ช่วยให้ก้าวข้ามข้อจํากัดของสถานที่และระยะทางได้ การขับเคลื่อนแบบ3 มิติและไร้รอยต่อนี้ จะช่วยให้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขยิ่งขึ้น อีกทั้งปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทํางานได้ดียิ่งขึ้นด้วย

SUSTINA-C Concept จะช่วยให้ก้าวข้ามข้อจํากัดของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัด รถคันนี้ ทําจากวัสดุหลากหลายประเภท ทั้งโลหะ เรซินและผ้า อย่างไรก็ตาม วัสดุ และทรัพยากรเหล่านี้ มีอยู่จํากัด หากยังคงยึดติดอยู่กับวิธีการใช้ในปัจจุบัน ทั้งการผลิตและการรีไซเคิล ไม่ช้าก็เร็วจะเข้าสู่ช่วงเวลายากลําบากในการรักษาความยั่งยืนในการผลิตผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนอย่างแน่นอน

โดย SUSTINA-C เป็นรถยนต์ที่ทําจากเรซินอะคริลิกที่รีไซเคิลและนํากลับมาใช้ใหม่ การหมุนเวียนทรัพยากรในลักษณะนี้ จะช่วยให้สามารถก้าวข้ามข้อจํากัดด้านทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัดและบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งความสุขและอิสระในการขับเคลื่อนสู่อนาคต

Honda Avatar Robot และ UNI-ONE จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพและความเป็นไปได้ของคน การเข้าสู่ระบบและควบคุม Honda Avatar Robot จากระยะไกล ทําให้สามารถปฏิบัติงานและสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ จากระยะไกลได้ราวกับว่าอยู่ที่นั่นด้วยตนเอง การใช้ Honda Avatar Robot จะช่วยให้ทุกคน

รวมถึงผู้ที่มีข้อจํากัดด้านการเคลื่อนที่อันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ สามารถทํากิจกรรมต่างๆ ได้จากสถานที่ห่างไกลอย่างมีประสิทธิภาพ และ UNI-ONE เป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้ง่ายๆ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ําหนักตัวขณะนั่งโดยไม่ต้องใช้มือจึงสามารถปฏิบัติงานต่างๆ ขณะเคลื่อนที่ ได้ UNI-ONE จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้กับผู้ใช้ที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหว สามารถขยับและเคลื่อนที่ได้

HondaCI-MEV รถยนต์ขนาดเล็กขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติช่วยเพิ่มและขยายขอบเขตการใช้ชีวิตไร้ขอบเขต ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นการขับรถและการเดินอาจกลายเป็นเรื่องยาก รวมทั้งผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ไม่มีรถ สาธารณะให้บริการ คนกลุ่มนี้ มักจะมีขอบเขตการดํารงชีวิตจํากัด

หากมีผลิตภัณฑ์นําเสนอการขับเคลื่อนเข้าถึงได้ง่ายก็สามารถไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ไกลขึ้น เร็วขึ้นและคล่องตัวมากขึ้น หากทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินทางได้อย่างอิสระและขยายขอบเขตการดําเนินชีวิตได้มากขึ้นจะมีโอกาสพบปะผู้คนใหม่ๆ มากขึ้น เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสของผู้คนได้ในที่สุด

Prelude Concept รถยนต์ซึ่งจะสานต่อความสนุกสนานและเพลิดเพลินในการขับขี่สู่อนาคตแห่งขุม พลังการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สำหรับ Prelude Concept นั้นฮอนด้ามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนคําว่า Prelude หมายถึง การแสดงเปิด กล่าวได้ว่า รถรุ่นนี้จะเป็นรุ่นบุกเบิกไปสู่ยนตรกรรมในอนาคตของฮอนด้า ที่จะส่งมอบความสนุกและเพลิดเพลินในการขับขี่สู่อนาคตแห่งพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตของฮอนด้า โดย Prelude Concept คือ ยนตรกรรมสปอร์ตที่พร้อมนําเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ทําให้อยากจะขับต่อไปและตื่นเต้นในการขับขี่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ซึ่งขณะนี้ กําลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ยนตรกรรมรุ่นนี้ สามารถส่งมอบความสุขในการขับขี่ได้สมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ฮอนด้ายังได้เริ่มนํา generative AI มาใช้ช่วยงานด้านออกแบบของทีมออกแบบ ในการถ่ายทอดความคิด สร้างสรรค์ สําหรับในงานครั้งนี้ generative AI จะสร้างภาพการออกแบบของการขับเคลื่อนในอนาคตที่ใฝ่ฝันและแสดงภาพเหล่านั้นบน Loop Screen ภายในบูธฮอนด้า ซึ่งความฝันของตน คือ การได้เห็นโลกที่ผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนมีโลโก้ฮอนด้าเดินทางไปทั่วโลก ทั้งภาคพื้นดิน ในมหาสมุทร บนท้องฟ้าและไปสอู่อวกาศ โดยผู้คนต่างเพลิดเพลินไปกับอิสระแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง

สำหรับงาน “เจแปน โมบิลิตี โชว์ 2023” กำหนดจัดงานขึ้นที่ Tokyo International Exhibition Center (โตเกียวบิ๊กไซต์) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 26 ต.ค. ถึงวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ย. 2566