เปลี่ยนไปทุกอย่าง จากเมื่อวาน… สำหรับ All New Honda Accord 2023 ที่เปลี่ยนทั้งเครื่องยนต์และหน้าตา ยกระดับขุมพลังขับเคลื่อนเป็น Full Hybrid e:HEV และติดตั้งระบบ Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย
Honda Accord G10 vs. G11
เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคากันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ All New Honda Accord 2023 รถเก๋งซีดาน D-Segment เชื่อว่าหลายคนต่างตั้งตารอคอยการเปิดราคากันอยู่ ที่แน่ๆ วันนี้เรามาดูความเปลี่ยนของ Generation 11 ว่าจะมีอะไรใหม่ๆ บ้าง
การออกแบบภายนอก
ว่าด้วยเรื่องของมิติตัวถังของ All New Honda Accord 2023 หรือ Honda Accord Gen 11 ที่มีความยาว 4,962 มม. ความกว้าง 1,862 มม. ความสูง 1,449 มม. และมีฐานล้อ 2,827 – 2,828 มม. (รุ่นล้อ 18 นิ้ว ฐานล้อสั้นกว่า 1 มม.) ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบกับ Gen 10 จะได้ผลดังนี้
- Honda Accord Gen 10 : 4,894 x 1,862 x 1,450 ฐานล้อ 2,830 มม.
- Honda Accord Gen 11 : 4,962 x 1,862 x 1,449 ฐานล้อ 2,828 มม.
ซึ่งจะเห็นได้ว่าขนาดของทั้งสอง Generation แทบจะไม่ต่างกันมาก เพียงแค่มีความยาวของตัวถังเพิ่มขึ้น 68 มม. มีขนาดความกว้างเท่าเดิม และมีฐานล้อที่แคบลง 2 มม. เท่านั้น
ในส่วนของการดีไซน์ด้านหน้า เห็นได้ชัดเลยว่าเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าและกันชนหน้าทรงใหม่ ไฟหน้าสไตล์ล่าสุดที่ทรงจะคล้ายๆ กับ Honda CR-V ในรุ่นปัจจุบัน แต่ดูเหมือนว่าจะทำให้บางเฉียบมากยิ่งขึ้น และตัดสลับเป็นไฟเลี้ยวที่ใช้เป็นแบบการไล่ระดับแทนที่จะกระพริบแบบธรรมดา
สำหรับด้านท้ายจะมีติดตั้งหางแบบ Duck Tail และ Diffuser สี Gloss Black ดีไซน์ของไฟท้ายดูเหมือนจะเป็นแบบยาวคาดไปจรดทั้ง 2 ฝั่ง แต่ว่าจริงๆ แล้ว ไฟตรงกลางจะมีเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ก็ทำให้ด้านท้ายดูสปอร์ตขึ้น สวยขึ้นมากๆ เลยทีเดียว ซึ่งทั้งไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED ทั้งหมด โดยรวมแล้วมันมีความ Modern Classic ผสมผสานกันอย่างแปลกตาเอามากๆ สำหรับในเจนนี้
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
มีความหรูหราและพรีเมียมมากยิ่งขึ้น แต่แฝงไปด้วยความสปอร์ตและทันสมัย สังเกตได้จากปุ่มฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงหน้าจอ Digital แบบใหม่ ไฮไลท์ก็คือ ปุ่มวงกลมตรงกลางเรียกว่า Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ อาทิ ระบบปรับอากาศ ระบบไฟ Ambience Light และระบบอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะแสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่าง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 8 คนอีกด้วย
อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายมากมาย อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้ดั่งใจ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว มีช่องเชื่อมต่อ USB Type C4 ตำแหน่ง มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
อีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือครั้งแรกในโลกกับรุ่น e:HEV RS ที่เสริมความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น ในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน มาพร้อมหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ที่มาพร้อมกับ Honda Smart Key Card
ขุมพลังการขับเคลื่อน
All New Honda Accord 2023 ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย ตอบสนองอย่างทันใจและทรงพลัง มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และมีอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด (Intelligent Multi-mode drive) ประกอบไปด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration) นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า กับสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกในแอคคอร์ด
เทคโนโลยีอัจฉริยะ Honda SENSING ใหม่ล่าสุด
สำหรับระบบ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING มีให้ในทุกรุ่นย่อย โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้องและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน โดยมีฟังก์ชันใหม่ ดังนี้
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ราคาจำหน่าย All New Honda Accord 2023 มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท
- รุ่น e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท
มีสีภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ All New Honda Accord e:HEV เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29% พร้อมรับ Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์) ประกอบด้วย
- ฟรีประกันภัย 1 ปี
- ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี Honda Ultimate Care (ฮอนด้า อัลติเมท แคร์) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ต่อจากการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สิ้นสุด รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน