โคเปนเฮเกน, 12 ต.ค. (ซินหัว) — รายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันพุธ (11 ต.ค.) ระบุว่าจำนวนประชาชนอายุ 65 ขึ้นไปในภูมิภาคยุโรปขององค์การฯ มีแนวโน้มสูงเกินจำนวนประชาชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ภายในปี 2024
รายงาน “การส่งเสริมกิจกรรมทางกายและอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีในภูมิภาคยุโรปของอค์การฯ” ระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวสร้างความท้าทายทางสังคม เศรษฐกิจ และสุขภาพ จึงเรียกร้องการให้ความสำคัญกับการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีเพื่อลดผลกระทบของประชากรสูงอายุ
นอกจากนั้นรายงานฉบับนี้เน้นย้ำผลกระทบสำคัญที่ว่าอาหารเพื่อสุขภาพและกิจกรรมทางกายมีผลต่อสุขภาพและการแก่ชรา พร้อมกับหักล้างแนวคิดที่ว่าสุขภาพและการแก่ชราเป็นคนละเรื่องกัน
อนึ่ง องค์การฯ เผยแพร่รายงานฉบับนี้เพื่อเป็นแนวทางเชิงยุทธศาสตร์แก่ผู้มีอำนาจตัดสินใจในการรับรองว่าผู้อยู่อาศัยในภูมิภาคยุโรปจะมีอายุยืนยาวและสุขภาพดีควบคู่กัน
ดร. เครมลิน วิกรมสิงห์ ที่ปรึกษาด้านโภชนาการ กิจกรรมทางกาย และโรคอ้วนประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การฯ เผยว่าผู้กำหนดนโยบาย ธุรกิจ และชุมชนในภูมิภาคยุโรปควรเพิ่มโอกาสและทำการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น เพื่อการมีทางเลือกสร้างสุขภาพดีที่ง่ายยิ่งขึ้น และเพิ่มอายุคาดเฉลี่ยอย่างมีสุขภาพดีแก่ทุกคน
รายงานฉบับนี้ระบุถึงสายสัมพันธ์สำคัญระหว่างการทำกิจกรรมทางกายต่อเนื่องและพฤติกรรมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต รวมถึงการป้องกันโรคไม่ติดต่ออย่างโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคสมองเสื่อม และโรคความผิดปกติทางจิตประสาทและอารมณ์
ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ตอกย้ำความสำคัญของการบริโภคผักผลไม้เพิ่มขึ้นและลดการบริโภคอาหารแปรรูปสูงในหมู่ผู้สูงอายุ พร้อมกับสนับสนุนการทำกิจกรรมทางกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และชี้ว่ากิจกรรมทางกายระดับสูงขึ้นสามารถลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากทุกสาเหตุได้ร้อยละ 35
ขณะเดียวกันองค์การฯ สนับสนุนการพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพ และการขยายโครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่มีชุมชนเป็นพื้นฐาน ตลอดจนกระตุ้นการบรรจุเรื่องโภชนาการเข้าสู่การศึกษาทางการแพทย์ และรับรองว่าประชาชนจะได้รับคำแนะนำและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพและกิจกรรมทางกายเป็นประจำ