นักท่องเที่ยวจีนหวาดมาไทยไตหาย-สื่อออนไลน์จีนกระหึ่มหวั่นตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ หอการค้า-ธุรกิจท่องเที่ยวชี้กระแสแรงภาพยนตร์ “ No more bets” ตีแผ่ความโหดร้ายอาชญากรรมออนไลน์ชายแดนติดไทย ส่งผลสะเทือน ททท.เร่งแจง 5 มณฑลจีนแผ่นดินใหญ่


เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพยนตร์จากประเทศจีน เรื่อง No more bets ได้ทุบสถิติในจีนแผ่นดินใหญ่ปี 2023 และทำลายสถิติเรื่อง Barbies ทั่วโลก กลายเป็นกระแสดังในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ได้เกิดผลกระทบและสร้างความหวั่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะเข้ามาเที่ยวย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ภาพยนตร์ No More Bets เป็นหนังแอคชั่นอาชญากรรมของจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากภาพยนตร์ได้ฉายในจีนประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำรายได้สูงกว่า 100 ล้านหยวน คาดว่าอาจทำได้ 500 ล้านเหรียญ หรือ 3.7 พันล้านหยวน และได้รับความนิยมสูงมาก แนวโน้มจะติด Top 10 ทำงานสูงสุดตลอดกาลของจีน

เนื้อเรื่องเล่าถึง นักโปรแกรมเมอร์ กับนายแบบหนุ่มที่ถูกที่ถูกล่อด้วยเงินรายได้สูงให้ไปทำงานในประเทศหนึ่งที่อยู่ติดกับประเทศไทย แต่ปรากฏว่าถูกหลอกให้ไปทำงานในแก๊งอาชญากรต้มตุ๋นออนไลน์ และถูกขู่บังคับทำงานเขียนโปรแกรมทำเกมพนันออนไลน์  ในฉากมีการกักขัง ทำร้าย ทรมาน โดยได้รับการยืนยันจากคนที่เคยไปอยู่ในขบวนการว่า มีฉากคล้ายสถานที่จริง ทำให้ได้รับความสนใจกับคนจีนที่โดนหลอกด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บไซต์พนันนี้ในประเทศเช่นกัน ซึ่งมีการกวาดล้าง ทำให้แก๊งอาชญากรเหล่านี้หนีมายังประเทศที่ติดกับไทยเป็นจำนวนมาก และในช่วงเดือนที่ผ่านมา หน่วยงานของจีนก็ได้จับมือกับไทย ลาว เมียนมา กวาดล้างแก๊งตามชายแดนอย่างหนัก

สำนักข่าวต่างประเทศ The Strait Time รายงานว่า ในภาพยนตร์ได้เสนอว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาและกัมพูชา ขณะที่ประเทศภูมิภาคนี้ต้องการนักท่องเที่ยวจากจีนเพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงไทยที่รัฐบาลใหม่ได้ประกาศนโยบายว่าจะฟรีวีซ่าให้ชาวจีน

เจ้าของบริษัทท่องเที่ยวในมณฑลตอนใต้ของจีน กล่าวว่า ขณะนี้มีคนจีนจำนวนมากในหมู่บ้านได้เริ่มทำพาสปอร์ตเพื่อเตรียมเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเดือนตุลาคมที่เป็นช่วงหยุดยาว โดยเฉพาะยังไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวจีน การเดินทางทั้งเส้นทาง R3A โดยรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นคาราวาน และเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นคือการนั่งรถไฟผ่านลาวและต่อมายังประเทศไทยที่จังหวัดหนองคาย อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่อง No more bets ได้สร้างความลังเลให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวจากแก๊งต้มตุ๋นผ่านเว็บไซต์พนัน คอลเซ็นเตอร์ในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งเจ้าของบริษัทท่องเที่ยวกล่าวยอมรับว่า มีคนกังวลในกลุ่มคนเมืองใหญ่บางกลุ่มที่ได้รับการเผยแพร่คลิปที่น่ากลัว และดูหนังที่สร้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คนจีนทั่วไปที่เดินทางกับกรุ๊ปทัวร์ไม่กังวล เพราะตนเองก็ได้อธิบายถึงสถานการณ์ว่าการท่องเที่ยวทั่วไปในประเทศไทยไม่มีอันตราย สามารถมาท่องเที่ยวได้ ไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่สื่อโซเชี่ยลส่งต่อ แต่ยอมรับว่าผู้ปกครองกังวลสำหรับลูกหลานที่จะมาท่องเที่ยวกันเอง จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวไม่ค่อยเข้ามาเที่ยวในไทยในช่วงเปิดประเทศให้คนจีนเดินทางออกหลังการโรคระบาดที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มคนทำงานก็จะรอช่วงหยุดเทศกาล คนที่เคยมาส่วนใหญ่เคยมาไม่กลัว เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และการยกเว้นวีซ่าทำให้คนจีนตื่นตัวอยากมาเที่ยวไทยจำนวนมาก

“ข้อกังวลที่เกิดขึ้นทราบว่าทาง สำนักงาน ททท. ไทยที่อยู่ใน 5 มณฑลใหญ่ได้อธิบายต่อคนจีนเช่นกัน และไม่ใช่เพียงคนไทยที่ถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คนจีนในประเทศไม่น้อยก็ถูกหลอกเช่นกัน เป็นปัญหาใหญ่ในจีน”เจ้าของบริษัทท่องเที่ยว กล่าว

ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวอีกรายหนึ่งในไทยที่รับนำเที่ยวเส้นทาง ไทย-ลาว-จีน กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาหลังประเทศจีนเปิดให้เดินทางออกนอกประเทศหลังโควิดที่ผ่านมา มีกลุ่มคนจีนติดต่อมาจำนวนมาก ในช่วงหยุดยาวในกลุ่มคนทำงาน แต่เนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา คนจีนเตรียมตัวไม่ทันเพราะการมารถยนต์ส่วนตัวเป็นกรุ๊ปต้องใช้เอกสารและติดต่อล่วงหน้า

ผู้ประกอบการธุรกิจรายนี้กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ากรุ๊ปที่มาส่วนใหญ่จะมาในรูปองค์กร บริษัท สมาคม ชมรม ต่างจากการท่องเที่ยวในช่วงก่อนหน้านั้นที่จะมาเป็นกลุ่ม ครอบครัว หมู่ญาติพี่น้อง และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง เลือกกินเที่ยวและที่พักราคาแพง และมักมีอินฟลูเอนเซอร์ติดตามมาไลฟ์สด รีวิวการเดินด้วยทุกกรุ๊ป ที่แต่ละคนมีผู้ติดตามจำนวนมากหลักล้าน บางคนสิบกว่าล้านคนในยอดผู้ติดตามและยอดวิว และหลายกลุ่มมีความสนใจมากในการที่จะมาดูตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลายคนสอบถามซื้อคอนโด ไม่ใช่เป็นห้องหรือเป็นชั้น แต่ขอข้อมูลหาซื้อเหมาอาคาร หรือเป็นโครงการ คาดว่าในช่วงหยุดยาวกลุ่มนี้ยังสนใจเข้ามาไทยอยู่

นายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานสภาหอการค้าเชียงราย

ด้านนายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานสภาหอการค้าเชียงราย กล่าวว่า กระแสภาพยนตร์เรื่อง No more bets มีความเป็นห่วง แม้ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่จากการติดตามข้อมูลทราบว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงประเทศเพื่อนบ้านซึ่งไม่ได้กล่าวถึงไทย แม้จังหวัดเชียงรายจะมีพื้นที่ติดชายแดน แต่เชื่อว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องระดับประเทศที่รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับประเทศดูแลอยู่ และเห็นว่าเรื่องนี้เราคนไทยคงอธิบายอะไรมากคงไม่เป็นผล แต่น่าจะดีที่คนจีนที่เขาจะอธิบายกับคนจีนเอง และทราบว่าฝ่ายที่ดูแลเช่น ททท. ได้สื่อสารกับอินฟลูเอนเซอร์ และหน่วยงานของจีนอยู่ ส่วนตัวโดยภาพรวมเห็นว่าไม่น่ากังวลมากนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาการแพร่ระบาดโควิด-19 สถานการณ์ของการต้มตุ๋นออนไลน์และเว็บไซต์พนัน ทำให้คนหนุ่มสาวทั้งไทย ลาว รวมถึง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน และอีกหลายประเทศที่มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาประเทศเป้าหมายถูกหลอกลวงให้ทำงานในพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านของไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแก็งค์ต้มตุ๋นออนไลน์เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของคนไทยนั้น  มีหนุ่มสาวจำนวนมากถูกหลอกลวงล่อลวงไปทำงานฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หรืออาณาจักรคิงส์โรมัน เมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว โดยเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงล่อลวง และไม่สามารถทำได้ตามที่ถูกบังคับ หนุ่มสาวเหล่านี้ได้ติดต่อขอกลับประเทศ แต่เนื่องจากส่วนใหญ่จะออกไปประเทศแบบลักลอบ เมื่อติดต่อขอกลับประเทศ รัฐบาลไทยได้ผ่อนปรนให้กลับ โดยยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมโรคระบาด โดยส่วนหนึ่งที่กลับมาจะเป็นกลุ่มที่ลักลอบไปทำคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์พนันซึ่งมีตัวเลขนับพันคน และหลายคนถูกกักตัวหรือมีการบังคับให้ทำงาน และถูกขายต่อ ถูกบังคับขายตัวเพื่อหาเงินใช้หนี้ บางคนถูกทรมาน และเรียกค่าไถ่จากผู้ปกครอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปัจจุบันในฝั่งประเทศเมียนมายังมีคนที่ลักลอบทั้งเต็มใจไปทำเพราะสภาพเศรษฐกิจ และถูกหลอกไปทำ โดยมีการเคลื่อนย้ายจากคิงส์โรมันในลาวไปยังเมียนมา โดยคนลาวบางส่วนถูกหลอกว่าจะส่งไปทำงานในไทย แต่ปรากฏว่ากลับถูกส่งไปยังฝั่งประเทศเมียนมา และถูกกักตัวบังคับให้ทำงาน ซึ่งยังคงมีปัญหาต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของแก๊งค้ามนุษย์และกลุ่มต้มตุ๋น โดยเฉพาะคนหนุ่มคนจีนที่ใช้ไทยผ่านไปยังคาสิโนหรือสถานบันเทิงรอบประเทศไทย ทั้งชายแดนแม่สาย เชียงแสน แม่สอด และอรัญประเทศ  และที่ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันเหล่านี้ ที่ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นจำนวนมากที่ชายแดนรอบประเทศไทย

ขณะที่ ศิวัตรา สินพสุธาดล เจ้าหน้าที่ภาคภาษาไทยศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน  ได้รายงานทางโทรศัพท์จากจีนในรายการกู๊ดมอร์นิ่งอาเซียนช่อง เอฟเอ็ม 100.5 อสมท.ว่า ขณะนี้คนจีนได้หันกลับมาเที่ยวภายในประเทศจีนมากขึ้น และไม่หวาดหวั่นที่จะเดินทางเที่ยวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงไทย เนื่องจากย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีข่าวที่ไม่ปรากฏในไทยแต่โด่งดังในจีนซึ่งสำนักข่าวจีนรายงานไว้เรื่องนักท่องเที่ยวจีนถูกทำร้าย ถูกหลอกลวง ถูกฆ่า ทำให้สื่อออนไลน์ถกเถียงกันเรื่องการมาเที่ยวในประเทศไทย พม่า ลาวและกัมพูชา โดยคนจีนออนไลน์และรีวิวจากอินเตอร์เนตซึ่งมีคำถามเยอะมากคือเรื่องรัฐบาลไทยให้ฟรีวีซา 

“เมื่อไปถามแม่ว่าจะไปเที่ยวเมืองไทย แม่ถามกลับว่าไม่กลัวไตหายหรือ หลายคนคอมเม้นต์ว่า เป็นผู้หญิงคนเดียวเดินทางมาเที่ยวจะปลอดภัยหรือ ความเห็นเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมมาถึงเดือนกันยายนและต่อเนื่องไปเพราะเขาเชื่อว่าหากมาเที่ยวในประเทศไทยจะโดนเรื่องแก๊งค้ามนุษย์หรือไม่ เจอเรื่องลักพาตัวหรือไม่ ภาพลักษณ์ประเทศไทยและประเทศย่านนี้ชัดเจนมาก ซึ่งชาวเน็ตมีคำตอบทั้งสนับสนุนและคัดค้าน

ตอนแรกที่มีข่าวนี้ออกมาดิฉันเองยังหัวเราะและบอกกับคนจีนที่อยู่ใกล้ตัวว่าคิดได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจคือจีนมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีความเข้าใจหลายระดับ บางคนเชื่อเลยโดยไม่ได้ตรวจสอบ มีจำนวนมากที่เชื่อไปแล้ว พร้อมทั้งพูดว่าอย่าไปเลย เพราะไปเที่ยวไม่คุ้มกับการเสี่ยง”ศิวัตรา กล่าว

เจ้าหน้าที่ภาคภาษาไทยศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนกล่าวว่า ในฐานะคนไทย มักพูดว่าคนที่หลอกลวงคือคนจีนที่อาศัยอยู่ในไทย แต่เขามองว่ากฎหมายมีช่องโหว่ที่ไม่ได้แก้ไข ทำให้ทุกอย่างติดลบดังนั้นคนจีนจึงคิดว่าไม่มาดีกว่า ต้องเข้าใจว่าคนจีนก็ดูข่าวสารในไทย มีตัวอย่างเรื่องที่นายกฯให้สัมภาษณ์เรื่องฟรีวีซ่า แต่เมื่อเขาไปบอกแม่ แต่แม่บอกว่าให้ระวังไตหาย บางคนอยากพาลูกเที่ยว แต่ไม่แน่ใจว่าไปประเทศไทยจะปลอดภัยหรือไม่เพราะต้องคำนึงถึงครอบครัวด้วย และมีชาวเน็ตบอกว่าไทยสวยจริง แต่ก็ต้องคำนึกถึงความปลอดภัย

“เราไม่แน่ใจว่าเรื่องของวีซ่าจะมีปัญหาหรือเปล่า ในขณะที่มีคนจีนออกมาคอมเม้นต์ว่า เรื่องของวีซ่าและการจ่ายค่าธรรมเนียมอาจไม่เป็นผลเท่ากับเรื่องความปลอดภัย ถ้าเราจะเอางบประมาณไปใช้ฟรีวีซ่า เอามาดูแลเรื่องความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวก่อนดีกว่า เราต้องทำให้เขาเข้าใจว่าประเทศไทยไม่ใช่ฐานการค้ามนุษย์ เมื่อมาเที่ยวเมืองไทยกลับไปอย่างอบอุ่น ไม่ใช่พอพูดถึงไทยแล้วคิดถึงเรื่องไตหาย ดิฉันได้ยินคนพูดเช่นนี้บ่อยมากในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา ” ศิวัตรา กล่าว


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *