นครศรีธรรมราช – พ่อขี่รถจักรยานยนต์พาลูก 2 ขวบ กับหลานสาววัย 14 ปี นั่งซ้อนท้ายไปเที่ยวซื้อของด้วยกัน สลดเจอกระบะขับพุ่งชนร่างกระเด็นลูกพร้อมหลานดับคาที่ ส่วนพ่อได้รับบาดเจ็บ

เมื่อคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช เข้าสอบสวนที่เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นมุ่งหน้า จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณยูเทิร์นตลาดถ้ำพรรณรา หมู่ 3 ต.ถ้ำพรรณรา ที่เกิดเหตุพบกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กธ 127 ชุมพร จอดชิดอยู่ริมถนนในเลนขวา ฝั่งขาขึ้นมุ่งหน้า จ.สุราษฎร์ธานี สภาพหน้ารถพังยับเยิน ชิ้นส่วนอะไหล่ตกกระจายเต็มถนน ส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาวน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนคู่กรณี ถูกชนกระเด็นไปอยู่กลางถนนอีกฝั่งขาล่องมุ่งหน้าไป อ.ทุ่งใหญ่ สภาพพังยับเยินเสียหายเกือบทั้งคัน

โดยที่เกิดเหตุพบ นายธนรชต แสงระวี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 1 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช คนขี่รถจักรยานยนต์ร่างกระเด็นไปอยู่กลางถนนใกล้กับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ ตามร่างกายแขนขามีแผลถลอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลถ้ำพรรณรา ในที่เกิดเหตุยังพบ ด.ช.กนกพล หรือน้องมาเวล แสงระวี อายุ 2 ขวบ 5 วัน นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างถนนฝั่งขาล่อง ใกล้กันพบ ด.ญ.ฤกษ์กิตติยา คะเณย์ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 4 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพมีบาดแผลที่ศีรษะ กะโหลกยุบ ขาขวาผิดรูป มีแผลตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชูชาติ นิคะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/11 หมู่ 2 ต.วัดประดู อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน เดินทางมารอมอบตัวต่อพนักงานสอบสวนอยู่ที่ สภ.ถ้ำพรรณรา

เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ นายธนรชต แสงระวี ได้ขี่รถออกจากบ้านเพื่อมาซื้อแกงที่ตลาดถ้ำพรรณรา โดยนำ ด.ช.กนกพล หรือน้องมาเวล ลูกชายวัย 2 ขวบ 5 วัน และ ด.ญ.ฤกษ์กิตติยา คะเณย์ หลานสาวอายุ 14 ปี นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คน จากนั้นนายธนรชต ขี่รถย้อนศรในฝั่งขาขึ้น เพื่อมายูเทิร์นกลับรถในฝั่งขาล่อง ขณะที่ขี่ซ้อนท้ายกันมา นายธนรชตไม่ทันระวัง บวกกับสัญญาณไฟส่องสว่างทางบริเวณที่เกิดเหตุไฟดับและมืด นายธนรชต มองไม่เห็น เป็นจังหวะที่รถกระบะของนายชูชาติ ขับมาทางตรงด้วยความเร็วจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อไปทำงานในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างจัง เป็นเหตุให้ทั้ง 3 คน ร่างกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทำให้ ด.ช.กนกพล และ ด.ญ.ฤกษ์กิตติยา เสียชีวิตคาที่ในที่เกิดเหตุ ส่วนนายธนรชต คนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายชูชาติ คนขับรถกระบะไว้ในสำนวนคดี และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ต้องรอสอบปากคำพยาน และสอบปากคำนายธนรชต คนขี่รถจักรยานยนต์ที่ยังบาดเจ็บให้หายดีเสียก่อน จากนั้นได้ปล่อยตัวชั่วคราว

หลังเกิดเหตุ นางวรรณกรณ์ แก้วแกมจันทร์ อายุ 43 ปี ภรรยาของนายธนรชต คนขี่รถจักรยานยนต์ และเป็นแม่ของ ด.ช.กนกพล ทราบข่าวรีบเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ถึงกับทรุดนั่งกองกับพื้น ร่ำไห้ใจจะขาด แทบเป็นลมล้มพับ ญาติๆ ที่มาด้วยกันต้องเข้าไปโอบกอดให้กำลังใจ พร้อมนำยาดมมาให้ดมตลอดเวลา คนเป็นแม่เปิดเผยว่า เพิ่งจะจัดงานวันเกิดให้ลูกชายน้องมาเวล อายุครบ 2 ขวบไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาผ่านมาเพียง 5 วัน น้องมาเวลก็มาจากครอบครัวไป